เอเอฟพี – สิงคโปร์ตัดสินใจเลือกบริษัทสัญชาติยุโรปอย่าง "โนเกีย" และ "อีริคสัน" เป็นผู้พัฒนาเครือข่าย 5G ในขณะที่หัวเว่ยของจีนอาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้อย่างจำกัดเท่านั้น
หัวเว่ย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารรายใหญ่ที่สุดของจีนถูกสหรัฐฯ กล่าวหาว่าขโมยความลับทางการค้าและเป็นเครื่องมือสอดแนมของจีน ซึ่งที่ผ่านมาวอชิงตันพยายามล็อบบี้ชาติพันธมิตรทั่วโลกให้กีดกันหัวเว่ยออกจากโครงการพัฒนาระบบ 5G
หัวเว่ย ปฏิเสธเรื่อยมาว่าไม่ได้มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนอย่างที่สหรัฐฯ อ้าง
สิงเทล (Singtel) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ระบุวานนี้ (24 มิ.ย.) ว่า บริษัทตัดสินใจเลือกค่าย “อีริคสัน” ของสวีเดนเป็นหุ้นส่วนร่วมพัฒนาเครือข่าย 5G โดยได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสิงคโปร์แล้ว
กิจการร่วมค้านี้ยังมีผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมของสิงคโปร์อีก 2 รายเข้าร่วม ได้แก่ M1 และ StarHub และได้เลือกบริษัท “โนเกีย” ให้เป็นผู้วางโครงสร้างพื้นฐานหลักของ 5G
อย่างไรก็ตาม ทั้ง M1 และ StarHub ระบุว่าบริษัทอื่นๆ เช่น หัวเว่ย อาจจะเข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์นี้ด้วยเช่นกัน
หัวเว่ย คว้าเพียงสัญญาให้บริการเครือข่ายสื่อสารระดับท้องถิ่นของ TPG Telecom ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายย่อยในสิงคโปร์เท่านั้น
รัฐบาลสิงคโปร์พยายามที่จะรักษาสัมพันธภาพที่ดีทั้งกับสหรัฐฯ และจีน โดยรัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ เอส. อิสวารัน ยืนยันว่า ไม่ได้มีการตัดบริษัทไหนออกจากกระบวนการพิจารณาอย่างแน่นอน
“เรามีกระบวนการพิจารณาอย่างเข้มข้นเพื่อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เช่น สมรรถนะ, ความปลอดภัย และความยืดหยุ่น” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าผู้ให้บริการแต่ละรายก็มีบรรทัดฐานของตัวเองด้วย
“ผู้จำหน่ายหลายรายได้เข้ามามีส่วนร่วมในองค์ประกอบต่างๆ ของเครือข่าย 5G และมีโอกาสที่บริษัทต่างๆ จะมีส่วนร่วมเพิ่มเติมอีกในอนาคต”
สิงคโปร์กำหนดเป้าหมายให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ “อัลตรา ไฮ-สปีด” ให้ถึงครึ่งประเทศภายในสิ้นปี 2022 และจะขยายครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศภายในสิ้นปี 2025
