รอยเตอร์ – สหรัฐฯ จัดทำรายชื่อ 20 บริษัทชั้นนำของจีนที่เชื่อว่า “ถูกควบคุมหรือเป็นเจ้าของโดยกองทัพจีน” ในจำนวนนี้รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และผู้ผลิตกล้องวงจรปิด Hikvision ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรระลอกใหม่
หัวเว่ย และ Hikvision ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำทางการค้าตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และอเมริกายังพยายามโน้มน้าวชาติพันธมิตรของตนให้กีดกันหัวเว่ยออกจากโครงการพัฒนา 5G ด้วย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้จัดทำรายชื่อ 20 บริษัทจีนซึ่งเข้ามาประกอบกิจการในสหรัฐอเมริกา และถูกวอชิงตันเพ่งเล็งว่าได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เช่น ไชน่า โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่นส์ กรุ๊ป, ไชน่า เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ป และผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติจีนอย่าง เอวิเอชั่น อินดัสตรี คอร์ปอเรชั่น ออฟ ไชน่า (AVIC) เป็นต้น
แม้การถูกตีตราโดยเพนตากอนจะไม่นำไปสู่บทลงโทษโดยอัตโนมัติ ทว่ากฎหมาย ก็ได้ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการสั่งคว่ำบาตร ซึ่งอาจนำไปสู่การอายัดทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทเหล่านี้ในอเมริกา
หัวเว่ย, ไชน่า โมบายล์, ไชน่า เทเลคอม, AVIC และสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ยังไม่ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ในประเด็นนี้ ขณะที่ Hikvision ประณามข้อครหาของสหรัฐฯ ว่า “ไม่มีมูล” พร้อมยืนยันว่า “ไม่ใช่บริษัทของกองทัพจีน” และไม่เคยเข้าร่วมในโครงการวิจัยและพัฒนาของกองทัพ แต่ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหา
เพนตากอนเผชิญแรงกดดันจากทั้ง 2 พรรคการเมืองให้ต้องจัดทำลิสต์ดังกล่าวขึ้นมา ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งทั้งในเรื่องเทคโนโลยี, การค้า และนโยบายต่างประเทศ
ทำเนียบขาวยังไม่ระบุชัดเจนว่าจะมีการคว่ำบาตรบริษัทในลิสต์หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลคนหนึ่งยอมรับว่าบัญชีรายชื่อนี้ “เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ, บริษัทเอกชน, นักลงทุน, สถาบันการศึกษา และหุ้นส่วนที่มีแนวคิดตรงกัน ซึ่งจะสามารถนำไปตรวจสอบวิเคราะห์ได้ว่าสมควรที่จะร่วมมือกับองค์กรจีนเหล่านี้หรือไม่”
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ คาดว่าจะกระพือความตึงเครียดระหว่าง 2 มหาอำนาจซึ่งมีสาเหตุจากปมขัดแย้งอื่นๆ อยู่แล้วเป็นทุนเดิม ทั้งประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่, กฎหมายความมั่นคงที่จีนจะบังคับใช้ในฮ่องกง รวมถึงประเด็นพิพาทอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้
สัปดาห์ที่แล้ว จีนได้ออกมาขู่แก้แค้นหากประธานาธิบดี ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนซึ่งพัวพันการกดขี่มุสลิมอุยกูร์
บริษัทอื่นๆ ที่มีชื่ออยู่ในลิสต์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้แก่ ไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชั่น คอร์ป, ไชน่า แอโรสเปซ ไซเอินซ์ แอนด์ อินดัสตรี คอร์ป (CASIC) และ CRRC ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟโดยสารรายใหญ่ที่สุดของโลก
เมื่อเดือน เม.ย. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และหน่วยงานอื่นๆ ได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FCC) เพิกถอนใบอนุญาตให้บริการสื่อสารทางไกลระหว่างประเทศของบริษัท ไชน่า เทเลคอม (อเมริกา) คอร์ป และเมื่อปีที่แล้ว FCC ก็ปฏิเสธที่จะออกใบอนุญาตลักษณะเดียวกันนี้ให้กับ ไชน่า โมบายล์ ซึ่งได้ทำการยื่นขอมานานหลายปี