เอเอฟพี - ผู้พิพากษาศาลกลางในบราซิล ออกคำสั่งให้ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู สวมหน้ากากในที่สาธารณะ หลังผู้นำขวาจัดรายนี้ละเมิดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่บังคับใช้ในกรุงบราซิเลีย
โรนาโต โบเรลลี ผู้พิพากษาออกคำสั่งให้ โบลโซนารู หยุดเพิกเฉยต่อประกาศของเมืองหลวงที่บังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากป้องกันโควิด-19 ไม่อย่างนั้นจะถูกปรับเงิน 2,000 เรียล (ราว 12,000 บาท) ขณะที่ประธานาธิบดีรายนี้เคยดูแคลนโรคระบาดใหญ่ โดยเปรียบเทียบว่ามันเป็นเพียงแค่ไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น
“ประธานาธิบดีมีหน้าที่ตามธรรมนูญที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศ เช่นเดียวกับส่งเสริมความผาสุกโดยทั่วไปของประชาชน ซึ่งหมายถึงใช้มาตรการต่างๆที่จำเป็นพื่อปกป้องสิทธิการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน” ผู้พิพากษาระบุเมื่อวันจันทร์ (22 มิ.ย.)
คำพิพากษานี้ยังมีผลกับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของโบลโซนารูและคณะทำงานด้วย
ทนายความรายหนึ่งเป็นผู้ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อศาล โดยทนายความรายนี้บอกว่าประธานาธิบดีควรต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบของเขา
ทั้งนี้ กรุงบราซิลเลียอยู่ภายใต้คำสั่งบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะมาตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โบลโซนารู ละเมิดมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในที่สาธารณะของเมืองหลวงอยู่เป็นประจำ ทั้งจับมือและโอบกอดเหลาผู้สนับสนุนที่ออกมาชุมนุมให้กำลังใจเขาบริเวณด้านนอกทำเนียบฯ ออกไปรับประทานอาหารริมทาง, จัดเลี้ยงปิ้งย่าง และออกไปสนามยิงปืน ซึ่งล้วนไม่สวมหน้ากากอนามัย
ก่อนหน้านี้ อับราฮัม ไวน์เทราบ์ อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการ ถูกปรับเงิน 2,000 เรียลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากกรณีไม่สวมหน้ากากตอนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้สนับสนุนโบลโซนารู ในกรุงบราซิเลีย
บราซิล เป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยจนถึงวันจันทร์ (22 มิ.ย.) มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,106,470 คน เสียชีวิต 51,271 คน