เอเจนซีส์ – สื่ออเมริกันชี้ในวันอาทิตย์ (21 มิ.ย.) กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ “ติ๊กต็อก” และสาวก “เคป๊อป”ชวนกันไปลงทะเบียนขอตั๋วฟังทรัมป์ปราศรัยแต่ไม่ได้ไปจริง เพื่อให้ “ที่นั่งในสนามกีฬาว่างเปล่า” นอกจากนั้นยังมีข่าวว่า ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่เหล่านี้ยังออกไปแสดงพลังเรียกร้องความยุติธรรมร่วมกับกลุ่มแบล็กไลฟ์สแมตเทอร์ ขณะที่ผู้จัดการแคมเปญทรัมป์ยังคงดึงดันว่า การหาเสียงครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่มีคนเข้าฟังโหรงเหรง เป็นเพราะสื่อและม็อบฝ่ายซ้าย
แม้ตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เองงดพาดพิงถึงการปราศรัยหาเสียงครั้งแรกภายหลังโรคระบาดของเขา ซึ่งจัดขึ้นที่สนามกีฬาในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมาเมื่อวันเสาร์ (20) ซึ่งมีกองเชียร์เข้าฟังการปราศรัยน้อยกว่าที่คาดไว้หลายเท่า โดยที่ในวันอาทิตย์ (21) ผู้นำสหรัฐฯ แค่ทวิตอวยพรเนื่องใน “วันพ่อ” ของสหรัฐฯเท่านั้น
แต่สื่อท้องถิ่นหลายสำนักรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบขาวว่า ทรัมป์ที่ชื่นชอบการอยู่ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่การหาเสียงครั้งแรกในรอบ 3 เดือนหลังจากอเมริกาล็อกดาวน์ มีคนเข้าฟังโหรงเหรงวังเวงมาก
ทั้งนี้ หน่วยดับเพลิงทัลซาระบุว่า มีคนเข้าฟังปราศรัยราว 6,200 คน แต่เจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงทรัมป์อ้างว่า อย่างน้อยๆ ต้องมี 12,000 คน ขณะที่ความจุของบีโอเค เซ็นเตอร์ที่ใช้จัดการปราศรัยหาเสียงคราวนี้รองรับได้ 19,000 คน และทำเนียบขาวอวดอ้างก่อนหน้านี้ว่า จะมีคนแออัดยัดทะนานฟังทรัมป์ถึง 100,000 คน
ขณะเดียวกันแผนการที่ทรัมป์และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะปราศรัยกับฝูงชนที่คาดว่าจะล้นออกนอกสนามกีฬา ก็ต้องยกเลิกโดยปริยาย เพราะแม้แต่ด้านในที่นั่งยังว่างเพียบ
เมอร์ซีเดส ชลาปป์ ผู้ช่วยอาวุโสในทีมหาเสียงของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ฟ็อก นิวส์ ซันเดย์ว่า ผู้สนับสนุนทรัมป์เข้าไปในบีโอเคเซ็นเตอร์ไม่ได้เพราะถูกกลุ่มผู้ประท้วงขวาง แต่ปรากฏว่าเรื่องนี้พวกผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานว่า ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน มีข่าวมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า พวกวัยรุ่นที่นิยมใช้แพล็ตฟอร์มวิดีโอสั้น “ติ๊กต็อก” ชักชวนกันเข้าไปลงทะเบียนขอรับบัตรเข้าฟังการปราศรัยของทรัมป์โดยไม่คิดว่าจะไปจริง
อย่างไรก็ตาม แบรด พาร์สเกล ผู้จัดการทีมหาเสียงของทรัมป์ที่เคยอวดอ้างว่า มีผู้ร้องขอเข้าฟังการปราศรัยกว่าล้านคน บอกว่า ข่าวดังกล่าวไร้สาระและไม่อยู่ในสมองของทีมงานเลย พร้อมกันนั้นเขากลับไปโทษว่า สาเหตุที่ทำให้งานกร่อยเป็นเพราะ “ข่าวปลอม” ของพวกสื่อมวลชน ในเรื่องความเสี่ยงในการระบาดของไวรัสโคโรนาจากการที่คนจำนวนมากเข้าไปอยู่รวมกันในสถานที่ปิด รวมทั้งภาพข่าวการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติทั่วอเมริกาที่ทำให้หลายคนหวาดกลัว
พาร์สเกลยังกล่าวอีกว่า พวกฝ่ายซ้ายมักคิดว่า ตัวเองฉลาดกว่า พร้อมอธิบายว่า การลงทะเบียนขอรับบัตรบนเว็บไซต์เป็นแค่การจองเท่านั้น แต่ไม่มีการออกบัตรให้จริง และยังใช้ระบบถึงก่อนได้รับบัตรก่อน นอกจากนี้ทีมงานยังคัดกรองเบอร์มือถือปลอมที่ใช้ลงทะเบียนออกด้วย
ทว่า อเล็กซานเดรีย โอกาสิโอ-คอร์เตซ ส.ส.ของพรรคเดโมแครต ทวิตตอบโต้ว่า พาร์สเกลกำลังถูกวัยรุ่นบนติ๊กต็อกปั่นหัว ด้วยการชักชวนกันจองตั๋วและทำให้ทีมหาเสียงเชื่อว่า มีคนเป็นล้านอยากเข้าไปอัดกันในสนามกีฬาในช่วงโควิดระบาดเพื่อฟังผู้นำลัทธิคนขาวเป็นใหญ่อย่างทรัมป์ พร้อมกันนี้เธอยังขอบคุณ “พันธมิตรเคป๊อปที่ร่วมต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม”
สอดคล้องกับทวิตของสตีฟ ชมิดต์ นักกลยุทธ์แคมเปญหาเสียงของรีพับลิกันเมื่อวันเสาร์ที่บอกว่า ลูกสาววัย 16 ปีและเพื่อนๆ ในเมืองปาร์กซิตี้ รัฐยูทาห์ มีตั๋วฟังปราศรัยทรัมป์เป็นร้อยใบ และทิ้งท้ายว่า “พวกคุณกำลังถูกวัยรุ่นอเมริกันหลอก” โดยทวิตนี้มีคนกดไลค์กว่า 100,000 คน รวมทั้งคอมเมนต์จากอีกหลายคนว่า ลูกๆ ของตนก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน
นอกจากนั้นโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นยังรายงานไว้ตั้งแต่วันอังคารที่แล้ว (16) ว่า วิดีโอบนติ๊กต็อกของ แมรี โจ ล็อปป์ คุณย่าวัย 51 ปีจากรัฐไอโอวา ที่ใช้แฮชแท็ก #ติ๊กต็อกแกรนด์มา เป็นตัวการจุดกระแสนี้ โดยในคลิปดังกล่าวที่มีคนกดไลค์กว่า 700,000 คนนั้น ล็อปป์ชวนคนไปลงทะเบียนขอตั๋วเข้าฟังการปราศรัยของทรัมป์ “เพื่อให้แน่ใจว่า ที่นั่งจะว่างเปล่า” พร้อมคำแนะนำวิธียกเลิกการรับข้อความจากทีมหาเสียงทรัมป์หลังจากแจ้งเบอร์โทรศัพท์เพื่อขอตั๋ว
กลุ่มวัยรุ่นที่ป่วนการหาเสียงของทรัมป์ไม่ได้ใช้แค่ติ๊กต็อก แต่ยังรวมถึงทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก นอกจากนี้กลุ่มสาวกเคป๊อปที่มีชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่ยังส่งข้อความชวนกันไปขอตั๋วงานหาเสียงทรัมป์ตามที่ลอปป์จุดประกาย
ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ บรรดาสาวกเคป๊อปในอเมริกายังไปร่วมประท้วงกับกลุ่มแบล็กไลฟ์สแมตเทอร์ และส่งคลิปศิลปินเค-ป๊อปเข้าไปป่วนแอปพลิเคชันของสำนักงานตำรวจดัลลัสที่ขอให้ประชาชนส่งหลักฐานกิจกรรมผิดกฎหมายระหว่างการประท้วง รวมถึงป่วนแฮชแท็กของฝ่ายขวา เช่น ไวท์ไลฟ์สแมตเทอร์