เอเอฟพี - สวีเดนในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ระบุว่าเริ่มเห็นสัญญาณต่างๆ ในทางบวกแรก และเศรษฐกิจของประเทศจะไม่หดตัวมากตามที่ประมาณการไว้ในเบื้องต้น หลังตัดสินใจเลือกยุทธศาสตร์แตกต่างจากชาติอื่นๆ ไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
มักดาลีนา อันเดอร์สสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าเวลานี้ทางรัฐบาลประมาณการว่าเศรษฐกิจของสวีเดนจะหดตัวราวๆ 6% ในปี 2020 จากเดิมที่ประมาณการไว้ในเดือนเมษายน ว่าจะหดตัวราวๆ 7%
“ท้ายที่สุดเราก็ได้เห็นสัญญาณต่างๆ ในทางบวกซึ่งบ่งชี้ว่าเราถึงจุดต่ำสุดแล้ว และตอนนี้เรากำลังเห็นการผันตัวสู่ขาขึ้น” อันเดอร์สสันกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมเน้นย้ำว่าการปรับขึ้นมีจุดเริ่มจากตัวเลขประมาณการที่ต่ำผิดปกติ และยังคงมองว่าตัวเลขประมาณการต่างๆ นั้นยังคงมีความไม่แน่นอน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสวีเดนเน้นว่าความจริงคือ สวีเดน มีการขยายตัวของจีดีพีแค่เล็กน้อยเพียง 0.1% ในไตรมาสแรกของปี และมีข้อบ่งชี้ว่าจีดีพีจะหดตัวอย่างมากในไตรมาส 2 แต่จากนั้นจะดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2020
การเติบโตที่หดตัวของสวีเดน ส่วนใหญ่แล้วสืบเนื่องจากการลงทุนที่ลดลง ซึ่ง อันเดอร์สสัน บอกว่าเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนโดยทั่วไปในเศรษฐกิจ
แม้พบเห็นสัญญาณแห่งการพลิกผัน แต่รัฐบาลสวีเดนคาดหมายว่าจีดีพีคงไม่ฟื้นคืนสู่ระดับเดียวกับปี 2019 จนกระทั่งปี 2022
สวีเดนเลือกหนทางต่างจากประเทศอื่นๆในยุโรป โดยพวกเขาไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมือง ในระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยยังคงอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เปิดดำเนินการได้ต่อไปเป็นส่วนมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากผลลัพธ์ซึ่งเกิดขึ้นจนถึงเวลานี้ ปรากฏว่าเศรษฐกิจสวีเดนทำท่าถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักหน่วงจากโรคระบาดคราวนี้ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากชาติอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาพึ่งพิงการส่งออกเป็นอย่างมาก ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 โดยเฉพาะในหมู่คนชราที่พุ่งสูงลิ่วยิ่งกว่า
วิธีการที่สวีเดนใช้รับมือกับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่นั้น บรรดาสถานบริการที่มีผู้คนชุมนุมแออัดกัน ใม่ว่าจะเป็น คาเฟ่, บาร์, ภัตตาคารร้านอาหาร รวมทั้งธุรกิจต่างๆ ส่วนใหญ่ต่างยังคงเปิดทำการได้ เช่นเดียวกับโรงเรียนสถานศึกษาสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ถึงแม้มีการเรียกร้องแข็งขันให้ประชาชนทำตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมและคำแนะนำด้านสุขอนามัยทั้งหลาย เช่น การล้างมือบ่อยๆ
แม้คาดหมายว่านโยบายเช่นนี้ อาจช่วยบรรเทาแรงฟาดกระหน่ำใส่เศรษฐกิจของประเทศลงไปได้บ้าง แต่ในความเป็นจริงก็คือเศรษฐกิจของสวีเดนก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่หนักหน่วงอยู่ดี