มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบแคบๆ ในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) แม้ยังมีความกังวลอุปทานล้นตลาด ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯอาจเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนฉุดทองคำปิดลบเล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 8 เซนต์ ปิดที่ 36.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 38.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ปิดในกรอบแคบๆ ในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) แต่รวมทั้ง 5 วันของการซื้อขาย ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาปิดลบเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 7 สัปดาห์ ความกังวลอุปทานล้นตลาดหวนคืนมาอีกรอบ หลังมีคำเตือนว่าสหรัฐฯอาจเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระลอก 2
ลุคแมน โอตูนูกา นักวิเคราะห์อาวุโสของ FXTM ให้ความเห็นว่า “ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันยังคงอ่อนไหวต่อความกังวลต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” เขากล่าว “มีความเป็นไปได้ที่อาจต้องล็อกดาวน์อีกรอบ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้าเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาดน้ำมัน”
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) พุ่งแรง โดยดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 470 จุด จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังวอลล์สตรีทดิ่งหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ แต่ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีทั้ง 3 ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ปิดลบคิดเป็นเปอร์เซ็นต์หนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 มีนาคม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 477.37 จุด (1.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,605.54 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 39.21 จุด (1.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,041.31 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 96.08 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,588.81 จุด
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บ่งชี้ในสัปดาห์นี้ว่า เส้นทางแห่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงอยู่อีกยาวไกล และการกลับมาเพิ่มขึ้นของเคสผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้กัดเซาะแนวโน้มในทางบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การพุ่งแรงของวอลล์สตรีทในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เป็นผลจากการช้อนซื้อของนักลงทุน หนึ่งวันหลังจากดัชนีทั้ง 3 ร่วงลงหนักอย่างน้อยๆ 5%
การฟื้นตัวของตลาดทุนและการแข็งค่าของดอลลาร์ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงต่ำถูกเมิน และส่งผลให้ราคาทองคำในวันศุกร์ (12 มิ.ย.) ปรับลดเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือบสิงหาคม ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,737.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
