รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในวันอังคาร (26 พ.ค.) เชื่อบรรดาผู้ผลิตจะทำตามคำสัญญาลดกำลังผลิต ท่ามกลางอุปสงค์หวนคืน หลังรถยนต์กลับสู่ท้องถนนมากขึ้น ในขณะที่ทั่วโลกผ่อนคลายล็อกดาวน์ ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำดิ่งหนัก จากมุมมองทางบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 34.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 64 เซ็นต์ ปิดที่ 36.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลของรัสเซียที่รายงานว่ากำลังผลิตน้ำมันของพวกเขาลดลงใกล้ระดับเป้าหมาย 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ภายใต้ข้อตกลงลดกำลังผลิตที่เห็นพ้องกันระหว่างโอเปกและบรรดาชาติผู้ผลิตชั้นนำ หรือที่เรียกว่า OPEC+
พวกผู้ผลิตเห็นพ้องกันในเดือนเมษายน ในการลดกำลังผลิตลงเกือบ 10 ล้านบาร์เรล สำหรับเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน
OPEC+ มีกำหนดพบปะกันอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมิถุนายน เพื่อหารือเกี่ยวกับการคงมาตรการลดกำลังผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน ซึ่งดำดิ่งลงราวๆ 45% นับตั้งแต่ต้นปี ท่ามกลางอุปสงค์โลกถดถอย จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
ในขณะเดียวกัน ตลาดยังได้หนุนจากความเห็นของอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ (25 พ.ค.) ว่าอุปสงค์พลังงานที่ฟื้นตัว หลังหลายชาติผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ น่าจะช่วยลดภาวะอุปทานล้นความต้องการในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ได้ราวๆ 7-12 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (26 พ.ค.) พุ่งแรง จากมุมมองแง่บวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ด้วยมีรัฐต่างๆ มากขึ้นที่ออกจากมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคอเมริกา
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 529.95 จุด (2.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,995.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 36.32 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,991.77 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.63 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,340.22 จุด
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ กลับมาซื้อขายในห้องค้าหลักทรัพย์อีกครั้ง หลังเปลี่ยนไปเป็นการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบนานกว่า 2 เดือน สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
แม้วอลล์สตรีทกลับมาเปิดห้องค้าหลักทรัพย์อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่มันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าประเทศแห่งนี้กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ในขณะที่รัฐต่างๆ ทยอยเปิดเศรษฐกิจกันแล้ว
นอกจากนี้แล้วตลาดยังได้แรงหนุนจากผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ดีดตัวสู่ระดับ 86.6 ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 85.7 ในเดือนเมษายน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 82.3
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง
ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จากกณีที่รัฐต่างๆในอเมริกาเริ่มยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ กระตุ้นให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำร่วงลงหนัก โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 29.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,705.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
