รอยเตอร์/เอเอฟพี - จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้กองทัพอเมริกันโยกย้ายกำลังทหาร 9,500 นายออกไปจากเยอรมนีภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ไฮโค มาส ของแดนดอยช์ ออกมาบ่นพึมในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติช่าง “สลับซับซ้อน” เหลือเกิน
“ควรจะมีการถอนทหารสหรัฐฯ ออกไปบางส่วนหรือ เราจดบันทึกเรื่องนี้ไว้ เรามีความซาบซึ้งใจสำหรับความร่วมมือกับกองทหารสหรัฐฯ ที่ได้มีการพัฒนามาหลายทศวรรษแล้ว เรื่องนี้ถือเป็นผลประโยชน์ของประเทศเราทั้งสอง” มาสกล่าวในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บิลด์ อัม ซอนน์ทาก (บิลด์ฉบับวันอาทิตย์)
มาสยอมรับว่าความสัมพันธ์ที่เยอรมนีมีอยู่กับสหรัฐฯ นั้นมีปัญหาหลายๆ อย่าง โดยกล่าวว่า “เราเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันในกลุ่มพันธมิตรสองฟากฝั่งแอตแลนติก แต่ว่ามันมีความสลับซับซ้อน”
เมื่อวันเสาร์ (6) พวกสมาชิกสภานิติบัญญัติระดับอาวุโส จากฝ่ายอนุรักษนิยมที่เป็นแกนนำในรัฐบาลผสมเยอรมันชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของทรัมป์ที่สั่งถอนทหารสหรัฐฯ 9,500 คนออกจากเยอรมนี
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ (5) สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้หนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ให้ออกนาม กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายทหารคราวนี้เป็นผลลัพธ์จากการทำงานอยู่หลายเดือนของ พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ และไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดระหว่างทรัมป์กับแมร์เคิล ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ออกมาปฏิเสธแผนการของทรัมป์ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี 7) แบบพบปะเจอหน้ากันในเดือนนี้
ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานในวันศุกร์ (5) เช่นกันว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) รับสนองคำสั่งของทรัมป์ โดยที่จะตัดลดจำนวนบุคลากรทางทหารสหรัฐฯ ที่มีอยู่ในเยอรมนีลงมากกว่า 1 ใน 4 นั่นคือลดลง 9,500 นาย จากที่มีตำแหน่งอยู่ประจำในเวลานี้ทั้งสิ้น 34,500 นาย
วอลล์สตรีทเจอร์นัลบอกอีกว่า มีการกำหนดเพดานเอาไว้ด้วยว่า ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ทหารสหรัฐฯ จะอยู่ในเยอรมนีได้ไม่เกินจำนวน 25,000 นาย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอยู่ประจำ หรือการสับเปลี่ยนหมุนเวียนชั่วคราวก็ตาม เท่ากับลดลงครึ่งหนึ่งจากเพดานอนุญาตในปัจจุบัน
ความเคลื่อนไหวคราวนี้เห็นกันว่า จะเป็นการลดพันธะผูกพันของสหรัฐฯ ลงมาอย่างสำคัญ ในการป้องกันยุโรปตามข้อตกลงองค์การนาโต้ นอกจากนั้นยังอาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติการของเพนตากอนที่เกี่ยวข้องกับแอฟริกาและตะวันออกกลางอีกด้วย
เมื่อสำนักข่าวเอเอฟพีพยายามติดต่อสอบถาม ทั้งเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวและของเพนตากอน ต่างไม่ปฏิเสธและก็ไม่ยืนยันรายงานข่าวนี้ ซึ่งปรากฏออกมาท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างคณะบริหารทรัมป์กับพวกพันธมิตรยุโรป ในเรื่องข้อตกลงความร่วมมือที่ใช้กันมายาวนานแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คณะบริหารทรัมป์มองว่า เยอรมนียังคงใช้จ่ายในด้านงบประมาณกลาโหมน้อยเกินไป
จอห์น อุลล์ยอต ผู้ทำหน้าที่โฆษกให้แก่สภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า ในฐานะที่ประธานาธิบดีมีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทรัมป์จึงมีการประเมินอยู่เรี่อยๆ เกี่ยวกับกำลังทหารสหรัฐฯ ที่ไปปรากฏตัวในต่างแดน
อุลล์ยอตไม่ได้ยืนยันว่ามีการลดกำลังทหารจริง แต่กล่าวในคำแถลงฉบับนี้ว่า “สหรัฐฯ ยังคงมีพันธะผูกพันที่จะทำงานกับเยอรมนีผู้เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของเรา เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการป้องกันร่วมกันของเรา ตลอดจนในประเด็นปัญหาสำคัญอื่นๆ จำนวนมาก”