เอเอฟพี – เมื่อวานนี้(4 มิ.ย)อัยการเกาหลีใต้ยื่นขอหมายจับตัวทายาทบริษัทซัมซุง ลี แจ-ยัง(Lee Jae-yong) และรองประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเลกทริคส์ สำหรับคดีการควบรวม 2 แผนกของบริษัทอย่างผิดกฎหมายปี 2015
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย)ว่า อลี แจ-ยัง(Lee Jae-yong) ซึ่งเป็นทั้งทายาทบริษัทซัมซุงและดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัทซัมซุง อิเลกทริคส์ เคยถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปี ในปี 2017 ข้อหาการให้สินบน ยักยอก และข้อหาอื่น ๆ ในความเกี่ยวข้องกับข่าวฉาวที่โด่งดังจนทำให้อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พัค กึน-ฮเย ต้องออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม ลีวัย 51 ปีสามารถเดินออกมาจากคุกได้ในอีก 1 ปีหลังจากนั้นโดยได้อนุญาตให้ได้รับการประกันตัวระหว่างกระบวนการอุทธรณ์แต่ทว่าในเวลานี้กำลังอยู่ในระหว่างการไต่สวนใหม่
สำนักงานอัยการเขตกลางโซล (Seoul Central District Prosecutors' Office) ออกแถลงการณ์ว่า ในเวลานี้พวกเขากำลังขอหมายจับทายาทซัมซุงสงสัยเกี่ยวข้องกับการควบคุมราคาและการซื้อขายอย่างผิดกฎหมายระหว่างการควบรวมปี 2015 ของ Cheil Industries และ ซัมซุง C&T
ธุรกรรมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้การส่งต่ออำนาจรุ่นที่ 3 ไปให้กับลีนั้นมีความราบรื่น ซึ่งซัมซุงนั้นเป็นกลุ่มธุรกิจที่เป็นการผูกขาดของครอบครัว ที่รู้จักในนามแชโบล (chaebol)
ที่ผ่านมาลีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Cheil Industries และบรรดานักวิจารณ์ต่างกล่าวว่า ซัมซุงพยายามแกล้งลดราคาของ ซัมซุง C&T เพื่อให้เขามีหุ้นใหญ่ขึ้นในธุรกิจที่ถูกควบรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างซัมซุง เป็นกระชับอำนาจให้แก่เขาในธุรกิจซัมซุง
นอกจากนี้พบว่าอัยการเกาหลีใต้ได้ขอหมายต่ออดีตผู้บริหารระดับสูงคนอื่นของซัมซุงที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมอีก 2 คน
ด้านทนายความของลีออกมาแสดงความเสียใจอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของอัยการเกาหลีใต้ โดยชี้ว่าทายาทซัมซุงให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่ระหว่างที่บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างเผชิญวิกฤตการบริหาร
ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการออกมาแถลงต้องการขอหมายจับลี แต่เอเอฟพีรายงานหุ้นซัมซุงปิดใกล้ 0.18% ที่กรุงโซล