เอเอฟพี - ฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านในวันพฤหัสบดี (4 มิ.ย.) กล่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กระทำการอันน่าละอาย ด้วยการโพสท่าถ่ายรูปคู่กับพระคัมภีร์ไบเบิล นอกโบสถ์แห่งหนึ่งในวอชิงตัน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่นานตำรวจเพิ่งใช้กำลังเข้าเคลียร์พวกผู้ประท้วงที่รวมตัวกันอย่างสันติ เปิดทางให้เขาเดิมข้ามฝั่งมาจากทำเนียบขาว
ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมกันตามเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ นับตั้งแต่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันวัย 46 ปี ถูกตำรวจฆ่าตายในมินนีอาโปลิส เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม
เมื่อวันจันทร์ (1 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ในนั้นรวมถึงสารวัตรทหารใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม เปิดทางให้ ทรัมป์ เดินจากทำเนียบขาวไปยังโบสถ์เซนต์จอห์น เพื่อถ่ายภาพเขาถือพระคัมภีร์ไบเบิล
“มันเป็นการกระทำที่น่าอดสูจากประธานาธิบดีคนหนึ่งซึ่งต้องการลงมือกับประชาชนของตนเอง ฉวยหนังสือแห่งสวรรค์ คำสอนของพระเยซู และชูมันขึ้น” รูฮานีกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ “ไบเบิลคือหนังสือที่เชื้อเชิญทุกคนสู่สันติ ความสงบและมีมนุษยธรรม คำสอนของพระเยซูไม่ใช่หนังสือที่ออกคำสั่งให้ฆ่าคนบริสุทธิ์”
รูฮานีกล่าวต่อว่า “เรากำลังเป็นประจักษ์พยานของหนึ่งในวันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ทางสังคมและการเมืองของอเมริกา ดินแดนที่ไม่มีความยุติธรรมสำหรับคนผิวสี สิ่งที่เกิดขึ้นกับจอร์จ ฟลอยด์ กลายเป็นเหตุการณ์ระดับโลก”
ความตึงเครียดระหว่าง 2 คู่อริ เตหะรานกับวอชิงหัน โหมกระพือขึ้นในปี 2018 หลังจากทรัมป์ ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวในการถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงประวัติศาสตร์ว่าด้วยนิวเคลียร์ของอิหร่าน และกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานอีกรอบ
นับตั้งแต่นั้นทั้งสองประเทศเฉียดเข้าใกล้ขอบเหวแห่งความขัดแข้งถึง 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว และสาดโคลนด้านการทูตกันไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า
