มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - น้ำมันลงแรงในวันพุธ (27 พ.ค.) จากข่าวรัสเซียอยากให้ผ่อนปรนมาตรการลดกำลังผลิตตามแผนเดิมในเดือนกรกฎาคม หลังอุปสงค์โลกฟื้นคืน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก แม้มีความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนในประเด็นฮ่องกง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 34.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้น หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่ามอสโกต้องการผ่อนปรนมาตรการลดกำลังผลิตในเดือนกรกฎาคม ให้กลับไปอยู่ในกรอบข้อตกลงลดกำลังผลิตที่โอเปกกับพันธมิตรเห็นพ้องกันเมื่อช่วงต้นปี หลังจากเห็นพ้องลดกำลังผลิตเพิ่มเติมสำหรับเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่ตกต่ำจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในฮ่องกง ในขณะที่จีนเตรียมผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ซึ่งอาจเป็นการยุติอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง และกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งให้เลวร้ายลงไปอีก
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในวันพุธ (27 พ.ค.) ว่า ฮ่องกงไม่เหลืออำนาจในการปกครองตนเองตามคำสัญญาของปักกิ่งอีกต่อไป คำแถลงที่อาจเปิดทางให้รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถอดศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้พ้นจากสถานะพิเศษทางการค้าภายใต้กฎหมายอเมริกา
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนในประเด็นฮ่องกง ก่อความกังวลต่ออุปสงค์สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำในวันพุธ (27 พ.ค.) ปรับลดเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,726.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (27 พ.ค.) ปิดบวกแรง โดยดาวโจนส์พุ่งกว่า 500 จุด นักลงทุนมองในแง่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่อเมริกากำลังมาเปิดเศรษฐกิจ แม้รายงานใหม่ของเฟดบ่งชี้ว่ายังคงมีความกังวลในภาคธุรกิจทั้งหลาย ต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 553.16 จุด (2.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,548.27 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 44.36 จุด (1.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,036.13 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 72.14 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,412.36 จุด
ภาคสถาบันการเงินและอุตสาหกรรมเป็นตัวนำขับเคลื่อนตลาดในวันพุธ (27 พ.ค.) เช่นเดียวกับสายการบินต่างๆ, โรงแรมและธุรกิจอื่นๆ ซึ่งต่างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักลงทุนมีความหวังจากถ้อยแถลงด้านบวกต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงแผนกลับมาเปิดสวนสนุกในฟลอริดาของดิสนีย์ และการตัดสินใจของผู้ว่าการรัฐเนวาดาเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (26 พ.ค.) อนุญาตให้คาสิโนกลับมาเปิดบริการภายใต้ข้อจำกัด
อย่างไรก็ตาม ตลาดต้องเตรียมตัวรับมือกับข้อมูลเลวร้ายทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ด้วยนักวิเคราะห์คาดหมายว่าตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการคนว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) น่าจะแตะระดับเกือบๆ 2 ล้านคน
ขณะเดียวกัน รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้คำจำกัดความธุรกิจต่างๆ ว่า “มีความไม่แน่นอนอย่างสูง” ด้วยบริษัทมากมายมีมุมมองแง่ลบเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อันเนื่องจากความท้าทายต่างๆ นานา ในการนำลูกจ้างกลับสู่การทำงาน ในนั้นรวมถึงความกังวลต่อสุขภาพของแรงงาน