รอยเตอร์ – ทวิตเตอร์ขึ้นแถบคำเตือนให้ “ตรวจสอบข้อเท็จจริง” ใต้ทวีตของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ทำเอาผู้นำสหรัฐฯ ออกอาการเดือดดาล และโจมตีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดฮิตว่ากำลังแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่ ทรัมป์ ใช้เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ผ่านการกลั่นกรองไปยังบรรดาฐานเสียงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ทวิตเตอร์เริ่มมีนโยบายสกัดกั้น ‘เฟคนิวส์’ มากขึ้น หลังถูกวิจารณ์เรื่องการควบคุมที่หละหลวมจนนำไปสู่การล่วงละเมิด การเปิดบัญชีปลอม และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ทรัมป์ ได้ออกมาตอบโต้ทันควัน โดยกล่าวหาทวิตเตอร์ว่าพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020
“ทวิตเตอร์กำลังปิดกั้นการแสดงคิดความเห็นอย่างเสรี และผมในฐานะประธานาธิบดีจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น!” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
ทรัมป์ ซึ่งมีผู้ติดตามบัญชีทวิตเตอร์กว่า 80 ล้านคนได้ทวีตข้อความเมื่อวันอังคาร (26) ว่า การโหวตทางไปรษณีย์ (mail-in ballots) จะเปิดช่องให้มีการทุจริตและนำไปสู่การโกงเลือกตั้ง และยังทวีตโจมตี แกรี นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียในประเด็นนี้อย่างเฉพาะเจาะจง ทั้งที่แคลิฟอร์เนียไม่ใช่รัฐเดียวที่ใช้วิธีการลงคะแนนผ่านไปรษณีย์
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ทวิตเตอร์ได้ขึ้นแถบข้อความสีน้ำเงินใต้ทวีตทั้งสองของ ทรัมป์ โดยเตือนผู้อ่านให้ “ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโหวตทางไปรษณีย์” และเมื่อคลิกที่แถบดังกล่าวก็จะนำไปสู่เพจที่ทีมงานทวิตเตอร์ได้รวบรวมข้อมูลไว้ โดยมีหัวข้อระบุว่า “ทรัมป์ กล่าวอ้างโดยไร้หลักฐานว่าการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะนำไปสู่การทุจริต” ตามมาด้วย “สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้” ซึ่งเป็นการตอบโต้ข้อมูลของ ทรัมป์ ใน 3 ประเด็น
ทรัมป์ ยังได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการโหวตทางไปรษณีย์ลงในเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผู้อ่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่า 170,000 ข้อความ และถูกแชร์มากกว่า 17,000 ครั้ง
แม้เฟซบุ๊กจะมีนโยบายลบเนื้อหาที่ให้ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือการลงทะเบียนผู้ใช้สิทธิ์ ทว่าโพสต์ของ ทรัมป์ กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ
ทวิตเตอร์ ยอมรับว่า การใส่แถบคำเตือนใต้ทวีตของ ทรัมป์ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “ต่อต้านข้อมูลปลอม” ที่บริษัทเริ่มนำมาใช้ในเดือนนี้เพื่อสกัดการแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยมีแผนที่จะขยายให้ครอบคลุมถึงข้อมูลที่ถูกโต้แย้งหรือบิดเบือนในประเด็นอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์เคยลบข้อความของประธานาธิบดีบราซิลและเวเนซุเอลาซึ่งมีเนื้อหาขัดต่อกฎระเบียบว่าด้วยการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มาแล้ว