xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัท-องค์กรจีน 33 แห่ง อ้างมีส่วนกดขี่ “มุสลิมอุยกูร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ประกาศวานนี้ (22 พ.ค.) ว่า เตรียมจะขึ้นบัญชีดำบริษัทและสถาบันของจีนรวม 33 แห่งในข้อครหาต่างๆ กัน เช่น ช่วยปักกิ่งสอดแนมชาวอุยกูร์, เกี่ยวข้องกับอาวุธทำลายล้างสูง และมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพจีน เป็นต้น

มาตรการของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ถือเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเล่นงานบริษัทจีนซึ่งผลิตสินค้าที่อาจใช้สนับสนุนกิจกรรมของกองทัพแดนมังกร รวมถึงลงโทษปักกิ่งฐานกดขี่ชาวมุสลิมกลุ่มน้อย ซึ่งประกาศนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกมาเผยแผนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงคุมม็อบในฮ่องกง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อ้างว่า บริษัทจีน 7 แห่งและสถาบันอีก 2 แห่ง “มีส่วนร่วมละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านนโยบายกดขี่ กักขังตามอำเภอใจ บังคับใช้แรงงาน ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสอดแนมชาวอุยกูร์” ขณะที่อีก 20 กว่าบริษัท, หน่วยงานของรัฐ และองค์กรการค้าถูกขึ้นบัญชีดำฐานสนับสนุนการจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือให้แก่กองทัพจีน

บริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีดำคราวนี้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และระบบจดจำใบหน้า ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทชิปอเมริกันอย่าง อินวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp) และ อินเทล คอร์ป ทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาล

NetPosa บริษัทเอไอที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ถูกครหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอดแนมชาวอุยกูร์ ส่วน Qihoo360 ซึ่งเป็นบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ก็เป็นอีกรายที่โดนเล่นงาน หลังมีข่าวครึกโครมเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า บริษัทค้นพบหลักฐานว่าเครื่องมือแฮกของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ถูกใช้โจมตีอุตสาหกรรมการบินของจีน ส่วน CloudMinds ซึ่งเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์ก็ถูกขึ้นบัญชีดำเช่นกัน

ทั้งนี้ การถูกเพิ่มลงในบัญชี ‘entity list’ ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะทำให้บริษัทหรือองค์กรนั้นๆ ถูกจำกัดการเข้าถึงสินค้าที่ผลิตในอเมริกา หรือแม้กระทั่งสินค้าที่ผลิตในต่างแดนแต่ใช้คอนเทนต์ หรือเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยผู้ผลิตที่ประสงค์จะจำหน่ายสินค้าให้แก่บริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำจะต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นกรณีๆ ไป และมีแนวโน้มสูงที่จะถูกปฏิเสธด้วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทและหน่วยงานด้านความมั่นคงสาธารณะของจีน 28 แห่งเมื่อเดือน ต.ค. ปี 2019 ในจำนวนนี้ยังรวมถึงบริษัทสตาร์ทอัปด้านเอไอ และผู้ผลิตกล้องวงจรปิด Hikvision โดยกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในแคมเปญกดขี่ชาวมุสลิมอุยกูร์

สหรัฐฯ ยังใช้พิมพ์เขียวเดียวกันในการเล่นงาน ‘หัวเว่ย เทคโนโลยีส์’ ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนซึ่งอเมริกากล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ก็เพิ่งจะออกกฎระเบียบใหม่ที่มุ่งกีดกันไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงชิประดับไฮเอนด์ได้


กำลังโหลดความคิดเห็น