เอเจนซีส์ - ตัวเลขติดเชื้อรวมทั่วโลกวันนี้ (22 พ.ค.) อยู่ที่ 5,106,686 คน เสียชีวิตรวม 333,032 คน สิงคโปร์ล่าสุด 30,426 คน และมีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ 628 คน ด้านอินเดียในวันศุกร์เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ภายใน 24 ชั่วโมง 6,000 ราย ส่วนสหรัฐฯยังคงมีผู้เสียชีวิตสูงสุดที่ 94,729 คน ติดเชื้อ 1,577,758 คน ผู้นำสหรัฐฯออกคำสั่งลดธงครึ่งเสา 3 วันไว้อาลัยเหยื่อโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัยตามการเรียกร้อง เยือนโรงงานผลิตรถฟอร์ด พร้อมยืนยันไม่ปิดประเทศรอบสอง หนีโควิด-19
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (22 พ.ค.) ว่า อ้างอิงตัวเลขจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า ตัวเลขติดเชื้อรวมทั่วโลกวันศุกร์ (22) อยู่ที่ 5,107,572 คน เสียชีวิตรวม 333,032 คน
สิงคโปร์ยังคงเป็นจุดร้อนสำหรับการระบาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด พบว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 30,426 คน มีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดในเอเชีย พบการติดเชื้อรายวันยังคงหลายร้อยคน โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันศุกร์ (22)
612 คน ส่วนใหญ่มาจากแคมป์แรงงานผู้มีรายได้น้อย
ส่วนไทยมีการขยายประกาศใช้กฎหมายภาวะฉุกเฉินออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน โดยโฆษกทีมรับมือโควิด-19 ของไทยชี้แจงว่า เพื่อให้มาตรการยังคงสามารถใช้เพื่อควบคุมการระบาดและรัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างเตรียมการเพื่อผ่อนคลายมาตรการเพิ่มต้นเดือนหน้า
ขณะที่ในวันพฤหัสบดี (21) NPR สื่อสหรัฐฯรายงานว่า นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) ได้ออกแนวความคิดให้นิวซีแลนด์ทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศหลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19
ทั้งนี้ นายกฯหญิงนอกจากเสนอให้ลดวันทำงานลง และยังให้การลาประเภทต่างๆ ในที่ทำงานคล่องตัวมากขึ้น หลังจากหารือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและบริษัทท่องเที่ยวในเมือง Rotorua
ขณะเดียวกัน ผลจากการที่อาร์เดิร์นสามารถรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี ทำให้ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากประชาชนจนในที่ประชุมฉุกเฉินระดับคอคัสของพรรคฝ่ายค้านหลักนิวซีแลนด์ เนชันแนล ปาร์ตี (National Party) และมีมติปลดหัวหน้าพรรคคนเก่า คือ ท็อดด์ มุลเลอร์(Todd Muller) และให้ ไซมอน บริดเจ็ส (Simon Bridges)
ความนิยมในตัวผู้นำหญิงนิวซีแลนด์สูงขึ้นพบว่า 84% สนับสนุนรัฐบาลเธอในการจัดการวิกฤตโควิด-19
ด้านอินเดียเห็นตัวเลขติดเชื้อสูงสุดภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีผู้ติดเชื้อใหม่ราว 6,000 คน โดยในวันศุกร์ (22) อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมอยู่กว่า 118,000 คน เพิ่มราว 5% จากวันพฤหัสบดี (21) และมีจำนวนผู้เสียชีวิต 3,853 คน
ขณะที่สหรัฐฯยังคงมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลกที่ 94,729 คน รัฐนิวยอร์กจำนวน 28,743 คน รัฐนิวเจอร์ซีย์ 10,846 คน และสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อรวม 1,577,758 คน CNN รายงานว่า หลังจากที่มีพลเมืองสหรัฐฯเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากโรคระบาดในที่สุด ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้ลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อผู้เสียชีวิต
ซึ่งในเช้าวันพฤหัสบดี (21) ประธานสภาล่างสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมแครต และผู้นำสภาสูงเสียงข้างน้อยของสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครต ได้ส่งหนังสือให้กับทรัมป์ ระบุว่า เพื่อร้องขอให้ผู้นำสหรัฐฯออกคำสั่งลดธงครึ่งเสาไว้อาลัย “เมื่อยอดเสียชีวิตพลเมืองสหรัฐฯจากโรคโควิด-19 ครบ 100,000 คน” ซึ่งในเวลานี้สหรัฐฯเห็นตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 95,000 คนเล็กน้อย
“ไว้อาลัยแก่พวกเขาและการสูญเสียต่อชาติของเรา พวกเรากำลังเขียนเพื่อร้องขอให้คุณออกคำสั่งลดธงชาติเหนืออาคารสาธารณะทุกแห่งในประเทศของเรา ในวันแห่งความเศร้าของการรำลึกที่เรามีผู้เสียชีวิตครบ 100,000 คน” รายงานจากหนังสือร้องขอของผู้นำสภาคองเกรสทั้งสอง
ทั้งนี้ ก่อนหน้า โจ ไบเดน ที่เชื่อว่าจะเป็นผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจากพรรคเดโมแครต แข่งกับทรัมป์ได้ออกมาร้องขอเช่นกัน
CNN ชี้ว่า ทรัมป์รอจนถึงค่ำวันพฤหัสบดี (21) เพื่อประกาศว่า เขาจะออกคำสั่งให้ลดธงชาติครึ่งเสา โดยกล่าวว่า “ผมจะให้มีการลดธงครึ่งเสาที่อาคารสำนักงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯทุกแห่ง รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เป็นเวลา 3 วันถัดไป เพื่อเป็นความทรงจำว่าพวกเราอเมริกันได้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19” อ้างอิงจากทวิตเตอร์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทรัมป์ระบุว่า การลดธงชาติครึ่งเสาจะมีขึ้นในวันจันทร์ (25) เพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสหรัฐฯที่ได้เสียสละให้กับชาติ
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯตามการรายงานของเดอะการ์เดียน ได้สวมหน้ากากสีน้ำเงินขณะไปเยี่ยมโรงงานการผลิตรถยนต์ฟอร์ดที่รัฐมิชิแกนวันพฤหัสบดี (22) โดยในภาพถ่ายจากการรายงานของสื่อสกายนิวส์อังกฤษ และ NBC news สหรัฐฯ เห็นทรัมป์สวมอยู่ร่วมกับบรรดาผู้บริหารโรงงานฟอร์ด ซึ่งโรงงานที่ Ypsilanti นั้น ผลิตเครื่องช่วยหายใจ หน้ากาก และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ สำหรับวิกฤตโควิด-19 ในสหรัฐฯ แต่เขาปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากต่อหน้ากล้องทีวี
และระหว่างการทัวร์โรงงานฟอร์ด ผู้นำสหรัฐฯตอบคำถามนักข่าว โดยกล่าวยืนยันว่า จะไม่มีการปิดประเทศรอบสอง หากสหรัฐฯต้องพบกับการระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยอ้างว่า ผู้คนต่างกล่าวอย่างชัดเจนว่า นี่ถือเป็นมาตรฐาน พร้อมกล่าวว่า สหรัฐฯจะดับไฟแต่จะไม่ปิดประเทศ อ้างอิงการรายงานจาก CNBC