รอยเตอร์ – ชาวบ้านนับหมื่นคนอพยพหนีมวลน้ำจากเขื่อน 2 แห่งในรัฐมิชิแกนที่แตกและไหลหลากเข้าท่วมชุมชนในเมืองมิดแลนด์ (Midland) เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าโรงงานสารเคมีแห่งหนึ่งในพื้นที่อาจได้รับความเสียหายจนเป็นเหตุให้สารพิษรั่วไหล
สำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ (NWS) ประกาศเตือนความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน “ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต” หลังจากแม่น้ำทิททาบาวาสซี (Tittabawassee) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวัน
มิดแลนด์ซึ่งมีประชากรราว 42,000 คน และอยู่ห่างจากดีทรอยต์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 193 กิโลเมตร ถูกน้ำท่วมสูงถึง 1.5 เมตรในบางจุด ก่อนที่ระดับน้ำในแม่น้ำจะขึ้นถึงจุดสูงสุดซึ่งยังต่ำกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้ 2-3 ฟุต
มาร์ก โบน ประธานคณะผู้บริหารเทศมณฑลมิดแลนด์ ยืนยันว่าไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่อุทกภัยคราวนี้ก็เพิ่มความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งต้องรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
เกร็ตเชน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ พร้อมเผยว่ามีประชาชนที่ต้องอพยพหนีน้ำท่วมประมาณ 10,000 คน หลังฝนที่ตกหนักทำให้แม่น้ำทิททาบาวาสซีเอ่อล้นตลิ่ง และทำให้เขื่อนเอเดนวิลล์ (Edenville) และเขื่อนแซนฟอร์ด (Sanford) เกิดการพังทลายเมื่อวันอังคาร (19)
“ผู้เชี่ยวชาญเรียกมันว่าเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 500 ปี” วิตเมอร์ ระบุในงานแถลงข่าวหลังลงพื้นที่ประสบภัย พร้อมย้ำเตือนให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำรีบอพยพขึ้นที่สูง
โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานแห่งชาติสหรัฐฯ (federal Energy Regulatory Commission - FERC) ยืนยันว่าจะส่งทีมวิศวกรเข้าไปตรวจสอบว่าเขื่อนทั้ง 2 แห่งแตกด้วยสาเหตุใดแน่ โดยก่อนหน้านี้ FERC เคยเพิกถอนใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าพลังน้ำสำหรับเขื่อนเอเดนวิลล์เมื่อปี 2018 หลังพบว่ามีการดำเนินงานที่บกพร่องและผิดพลาดหลายเรื่อง
คลิปวิดีโอจากในพื้นที่เผยให้เห็นอาคารบ้านเรือนในเขตตัวเมืองมิดแลนด์ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำ สะพานและถนนหลายสายถูกน้ำท่วมบางส่วน ขณะที่ชาวบ้านต้องหันมาใช้วิธีพายเรือคายัคเพื่อสัญจรไปมา
บริษัท ดาว เคมีคอล จำกัด (Dow Chemical Co.) ซึ่งมีฐานอยู่ที่มิดแลนด์ ยอมรับวานนี้ (20) ว่ามวลน้ำจากเขื่อนได้ไหลเข้ามาปะปนกับน้ำภายในบ่อพัก แต่ยืนยันว่าไม่มีสารพิษรั่วไหลออกสู่สิ่งแวดล้อม และบริษัทได้สั่งระงับการปฏิบัติงานทุกหน่วยแล้ว ยกเว้นในส่วนที่จำเป็นสำหรับการควบคุมการกักเก็บสารเคมี
โรงงานแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 1,900 เอเคอร์ และอยู่ไม่ไกลจากจุดที่มีการพบสารพิษปนเปื้อนร้ายแรงจำพวกไดอ็อกซิน (Dioxin) ซึ่งถูกปล่อยออกมาจากโรงงานแห่งนี้เป็นเวลานานนับสิบๆ ปีระหว่างกระบวนการผลิตสินค้าจำพวกคลอรีน
สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ระบุว่า การกำจัดสารพิษซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ Superfund คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2021