เอเอฟพี - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ อนุมัติจำหน่ายตอร์ปิโดประสิทธิภาพสูงจำนวน 18 ลูก รวมมูลค่า 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 5,700 ล้านบาท ให้แก่รัฐบาลไต้หวัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ส่อแววกระพือความตึงเครียดกับจีน
สหรัฐฯ อ้างว่า การขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นธุรกรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์
“การจำหน่ายอาวุธครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและความมั่นคง และยังช่วยสนับสนุนประเทศผู้รับให้สามารถปรับปรุงกองทัพให้มีความก้าวหน้าทันสมัย และคงไว้ซึ่งศักยภาพในการป้องกันตนเองที่เชื่อถือได้” กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (20 พ.ค.)
วอชิงตันยังอ้างว่าการซื้อขายครั้งนี้ “ช่วยเสริมความมั่นคงให้แก่ไต้หวัน และยังธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง, ดุลอำนาจทางทหาร และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในภูมิภาค”
ทั้งนี้ ตอร์ปิโดรุ่น MK-48 ซึ่งสามารถยิงจากเรือดำน้ำและกำลังจะถูกส่งให้แก่ไต้หวัน เป็นอาวุธที่มีอยู่ในคลังแสงของกองทัพเรือสหรัฐฯ อยู่แล้ว
ไต้หวันมีการปกครองที่แยกขาดจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งแต่ปี 1949 หลังจากที่ฝ่ายชาตินิยม (ก๊กมินตั๋ง) พ่ายแพ้สงครามกลางเมืองต่อพรรคคอมมิวนิสต์ และหลบหนีไปตั้งรัฐบาลคู่แข่งที่เกาะไต้หวัน
อย่างไรก็ดี จีนยังคงถือว่าไต้หวันเป็นแค่ ‘มณฑล’ หนึ่งของตน และหากจำเป็นก็พร้อมที่จะใช้กำลังทหารยึดเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้กลับมาอยู่ภายใต้การปกครอง
สหรัฐฯ ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทเปในปี 1979 และยอมรับว่า ปักกิ่งเป็นรัฐบาลหนึ่งเดียวของจีนที่มีอำนาจปกครองโดยชอบธรรมภายใต้หลักจีนเดียว (One China) แต่ถึงกระนั้นวอชิงตันก็ยังคงเป็นซัปพลายเออร์หลักที่จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่กองทัพไต้หวันเรื่อยมา
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงออกชัดเจนว่าจะรักษาธรรมเนียมปฏิบัตินี้ต่อไป
เมื่อไม่นานมานี้ จีนได้แจ้งเตือนไปยังรัฐบาลฝรั่งเศสว่าการขายอาวุธให้ไต้หวันจะทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างปารีสกับปักกิ่ง ซึ่งสื่อไต้หวันระบุว่า จีนกำลังหมายถึงข้อตกลงที่เกี่ยวโยงกับการขายเรือรบฝรั่งเศสให้ไต้หวันเมื่อทศวรรษ 1990 ซึ่งได้กลายเป็นชนวนความตึงเครียดทางการทูตระหว่างจีนกับฝรั่งเศสในตอนนั้นด้วย