บิสซิเนสอินไซเดอร์ - แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กแถลงในวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่าจะขยายคำสั่งหยุดอยู่บ้านออกไปจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังวิกฤต แม้รัฐอื่นๆ ในสหรัฐฯเริ่มทยอยกลับมาเปิดเศรษฐกิจแล้ว
ในคำสั่งพิเศษที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) คูโอโมบอกว่า ทางรัฐจะเดินหน้านโยบาย “รัฐนิวยอร์กหยุดนิ่ง” ต่อไป หลังบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ในมาตรการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่คำสั่งชัตดาวน์ในปัจจุบัน มีกำหนดหมดอายุลงในวันศุกร์ (15 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
“ทั้งเคสการแพร่เชื้อโควิด-19 อันสัมพันธ์กับการเดินทางและการติดต่อกันในชุมชน ยังพบเห็นอยู่ในรัฐนิวยอร์ก คาดหมายว่า จะเกิดขึ้นต่อไป” คำสั่งระบุว่า “ดังนั้น ทุกกลไกที่บังคับใช้โดยรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นควรดำเนินต่อไปอย่างเต็มรูปแบบและจะมีผลไปจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน จนกว่าจะมีการขยายเพิ่มเติมในภายหลังหรือแก้ไขโดยคำสั่งพิเศษในอนาคต”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธ (13 พ.ค.) คูโอโม บอกว่า มีเขตปกครองในนิวยอร์กหลายแห่งที่ทำได้ตามกฎเกณฑ์ของเขาในการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ และในคำสั่งพิเศษวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) เขาบอกว่า เขตปกครองบางแห่งที่ทำได้ตามมาตรวัดด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยจะได้สิทธิ์กลับมาเปิดเศรษฐกิจ
“เขตปกครองฟิงเกอร์เลค, เซาเทิร์นเทียร์, โมฮอร์ค วัลเลย์และนอร์ท คันทรี รวมถึงเซ็นทรัลนิวยอร์ก พร้อมแล้วสำหรับเริ่มเฟส 1 ของการเปิดเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้” คูโฮโม ระบุในทวิตเตอร์ในวันพฤหัสบดี (14 พ.ค.) “ส่วนเขตอื่นๆ ก็สามารถปลดล็อกได้ทันทีที่พวกเขาทำได้ตามมาตรฐาน”
นิวยอร์กเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หนักหน่วงที่สุดในสหรัฐฯ โดยจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ล่าสุดในวันศุกร์ (14 พ.ค.) พบผู้ติดเชื้อในรัฐแห่งนี้ มากกว่า 350,000 เคสและมีผู้เสียชีวิตเกิน 27,000 คน
ส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐนิวยอร์กหยุดนิ่ง ทุกธุรกิจที่ถูกพิจารณาว่าไม่มีความจำเป็นต้องปิดทำการ และห้ามรวมกลุ่มกันโดยไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้แล้ว ยังแนะนำให้ประชาชนในรัฐต้องอยู่ห่างจากคนอื่นๆ อย่างน้อย 6 ฟุตในที่สาธารณะ และจำกัดกิจกรรมกลางแจ้ง
ความเคลื่อนไหวของรัฐนิวยอร์กมีขึ้นหนึ่งวันหลังจาก กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหรัฐฯ ขยายเวลาการใช้มาตรการให้ประชาชนอยู่บ้านและการปิดธุรกิจที่ไม่สำคัญต่อไปจนถึงวันที่ 8 มิถุนายน แม้รัฐอื่นๆ กำลังทยอยเปิดเศรษฐกิจ
“เห็นได้ชัดว่าเรายังไม่พร้อมที่จะเปิดเศรษฐกิจ” มูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน กล่าวหลังออกคำสั่งขยายเวลาล็อกดาวน์ซึ่งเดิมจะสิ้นสุดลงในวันศุกร์ (15 พ.ค.) พร้อมกับให้เหตุผลว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงจนถึงระดับที่น่าวางใจให้กลับมาเปิดเมืองได้
อย่างไรก็ตาม บาวเซอร์ กล่าวว่า กรุงวอชิงตันจะทบทวนคำสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้าน และอาจจะยกเลิกคำสั่งหากมีข้อมูลสนับสนุนให้ดำเนินการดังกล่าว
บาวเซอร์ยังกล่าวด้วยว่า หนึ่งในเกณฑ์สำคัญที่จะใช้ในการพิจารณาการเปิดเศรษฐกิจคือ อัตราการระบาดของไวรัสจะต้องลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 14 วัน แต่จนถึงขณะนี้ ตัวเลขการติดเชื้อในกรุงวอชิงตันลดลงติดต่อกันเพียง 4 วันเท่านั้น
