เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ครอบครัวแรงงานยากจนอินเดีย ที่มีหญิงครรภ์ 9 เดือนอยู่ด้วย ได้เดินทางจากเมืองนาชิค (Nashik) รัฐมหาราษฎร์ เพราะไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเดินทางด้วยเท้ามุ่งหน้าไปรัฐมัธยประเทศ ที่อยู่ติดกัน แต่บังเอิญที่เธอเกิดคลอดลูกในวันที่ 5 พ.ค.หลังเดินมาแล้ว 70 กิโลเมตร และยังเดินทางด้วยเท้าต่ออีก 160 กิโลเมตร หรือราว 4 วันก่อนที่จะถึงจุดตรวจที่รัฐมัธยประเทศระหว่างโควิด-19 ระบาด
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (14 พ.ค.) ว่า ครอบครัวยากจนแรงงานต่างถิ่นอินเดียที่มีสามีและภรรยาตั้งครรภ์และบุตรอีก 4 คนเดินทางด้วยเท้าจากกลุ่มทั้งหมด 16 คนอ้างอิงตัวเลขจากสื่อไทม์ส ออฟ อินเดีย ออกจากเมืองนาชิค (Nashik) รัฐมหาราษฎร์ จากปัญหาไม่มีที่อยู่อาศัย เพื่อมุ่งหน้าไปเมืองสัตนา (Satna) รัฐมัธยประเทศในรัฐที่ติดกัน
และพบว่าระหว่างการเดินทางร่วม 1,000 กิโลเมตร ชากุนตาลา (Shakuntala) ภรรยาครรภ์แก่ 9 เดือน เกิดคลอดลูกเป็นทารกเพศหญิงที่ข้างทางระหว่างเดินเท้า และไม่กี่วันหลังจากนั้น ครอบครัวนี้ถูกหยุดโดย คาวิตา คาเนช (Kavita Kanesh) เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจที่รัฐมัธยประเทศ ระหว่างที่ทั้งกลุ่มกำลังเข้าสู่เมืองบิจาสาน (Bijasan) โดยทางตำรวจหญิงตั้งคำถามเมื่อเห็นทารกแรกคลอดในอ้อมแขนชากุนตาลา และต้องตกใจเมื่อพบว่า ชากุนตาลาได้ให้กำเนิดบุตรบริเวณข้างทางถนนทางหลวง อกรา มุมไบ (Agra Mumbai) โดยได้ความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนอื่นที่อยู่ในกลุ่ม 4 คน
“เธอเพิ่งได้รับการพักผ่อนเป็นเวลา 1.30-2 ชม. หลังคลอด ทั้งครอบครัวไม่มีเงิน ไม่มีค่ารถ และไม่มีใครช่วยพาพวกเขาไปส่ง” คาเนช ให้สัมภาษณ์ทาง CNN
อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่อินเดียพบว่า หญิงรายนี้คลอดบุตรเมื่อวันที่ 5 พ.ค และต้องใช้เวลาถึง 4 วัน หรือราว 160 กิโลเมตร จนเดินทางมาถึงจุดตรวจ โดยตำรวจเมืองบิจาสานทั้งหมดที่อยู่บริเวณด่านตรวจต้องน้ำตาไหลด้วยสะเทือนใจ หลังพบว่า ชากุนตาลา เดินมาในระยะทาง 70 กิโลเมตร ก่อนที่จะให้กำเนิดบุตร และหลังจากนั้น เธอได้เดินต่อพร้อมบุตรสาวแรกคลอดในอ้อมแขนอีก 160 กิโลเมตร จนมาเจอด่านตรวจ
ครอบครัวออกเดินทางจากเมืองนาชิค เพราะไม่มีที่อยู่อาศัยและปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลทำให้ทางครอบครัวไม่มีงานทำเพื่อมีรายได้ ซึ่งคาเนชได้จัดการให้หญิงอินเดียที่ยากจนรายนี้ สามารถเข้ารับการตรวจร่างกายและกักกันโรค
ด้านสามี ราเคช โคอุล (Rakesh Koul) กล่าวในรายงานของไทม์ส ออฟ อินเดีย ว่า ถึงการเดินทางจะยากลำบาก แต่ตัวเขาพบกับความมีน้ำใจตลอดข้างทาง พบว่า มีครอบครัวชาวซิกข์ได้มอบเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับทารกให้ที่เมืองตุล (Dhule) ซึ่งโคอุลและแรงงานคนอื่นๆ ต้องตกงาน เนื่องมาจากอุตสาหกรรมถูกปิดที่เมืองนาชิค ทำให้ทุกคนตัดสินใจกลับบ้านเพราะไม่มีอะไรจะกิน
ครอบครัวหญิงอินเดียผู้นี้ เป็นหนึ่งในตัวอย่างปัญหาแรงงานต่างถิ่นอินเดีย ที่ต้องการเดินทางกลับสู่หมู่บ้านที่ห่างไกลของตัวเองอีกครั้งระหว่างวิกฤตโรคระบาด ที่ทำให้ไม่มีงานทำ แต่ต้องเกิดปัญหาเพราะทางนิวเดลีออกคำสั่งปิดกั้นการเดินทางข้ามรัฐและรถไฟหยุดวิ่งก่อนหน้า สำหรับผู้ที่ไม่มีเงินต้องเดินทางด้วยเท้าเหมือนเช่นครอบครัวนี้
ความยากจนถือเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับมวลหมู่มนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานจากหมู่บ้านยากจนของอินเดีย ที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน หรือลูกจ้างองค์การใหญ่โตระดับโลก เช่น องค์การอวกาศนาซา NASA ของสหรัฐฯ เพราะเกิดขึ้นแล้วกับลูกจ้างองค์การนาซาที่ถูกสั่งให้ออกจากงานชั่วคราว เนื่องมาจากวิกฤตการปิดหน่วยงานรัฐ สื่อเบย์แอเรีย KPIX CBS ซานฟรานซิสโก เบย์แอเรีย รายงานเมื่อวันที่ 18 ม.ค ปีที่แล้วว่า ครอบครัวเจ้าหน้าที่ภารโรงองค์การนาซาต้องเข้าคิวขอรับปันส่วนอาหารที่คลังจุดแจกอาหารเมืองซานโฮเซ่เกิดขึ้นหลังนาซาปิดไปแค่ 28 วันเท่านั้น
และความยากจนซึ่งเป็นผลมาจากไวรัสโคโรนาระบาด ยังทำให้รัฐมิชิแกนล่าสุด อ้างอิงการรายงานจากเดอะดีทรอยส์ นิวส์ เมื่อวานนี้ (13) ที่ทางรัฐมีแผนจะประหยัดเงิน 80 ล้านดอลลาร์ ด้วยการให้ลูกจ้างจำนวนหลายพันคนทั่วทั้งรัฐถูกลดวันการทำงานลง 2 วันของระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งจะทำให้คนเหล่านี้ถูกตัดค่าแรงไปโดยปริยาย
เดอะดีทรอยส์ นิวส์ กล่าวว่า ทางรัฐมิชิแกนตั้งใจจะผลักภาระให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ด้วยการคาดหวังให้ลูกจ้างประจำรัฐเหล่านี้ขอรับสวัสดิการว่างงานจากรัฐบาลกลางเพื่อเยียวยาในส่วนที่เหลือเพื่อที่คนเหล่านี้จะยังคงมีรายได้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำวันและค่าเช่าบ้านได้อ้างอิงจากสำนักงานผู้ว่าการรัฐ เกรตเชน วิธเมอร์ (Gov. Gretchen Whitmer)
