รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ วิจารณ์คำพูดของ นพ.แอนโธนี เฟาซี หมอใหญ่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดว่าเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้” หลังอีกฝ่ายออกมาเตือนว่าอาจจะเกิด “ผลลัพธ์ร้ายแรง” หากรัฐบาลรีบร้อนเปิดเศรษฐกิจและโรงเรียนเร็วเกินไป
“สำหรับผมมันไม่ใช่คำตอบที่รับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องโรงเรียน” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ หลังผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวได้สอบถามเขาว่าคิดอย่างไรบ้างกับคำเตือนของ นพ.เฟาซี ซึ่งบอกกับคณะกรรมาธิการวุฒิสมาชิกเมื่อวันอังคาร (12) เกี่ยวกับความเสี่ยงของการรีบร้อนเปิดสถานศึกษาและฟื้นเศรษฐกิจ
เฟาซี ซึ่งเป็นหัวหน้าสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ยังเตือนด้วยว่า การยกเลิกล็อกดาวน์ก่อนเวลาอันสมควรอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้คร่าชีวิตประชากรในสหรัฐฯ ไปแล้วมากกว่า 82,000 คน และทำให้เศรษฐกิจอเมริกาย่ำแย่หนัก
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ดูเหมือนจะไม่กังวลในประเด็นนี้ และเสนอให้อาจารย์หรือครู “ที่อายุมากในระดับหนึ่ง” ยังไม่ต้องทำการสอน
“ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะพักผ่อนสบายๆ ต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์” ทรัมป์ ระบุ
ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมองว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตนชนะเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในเดือน พ.ย. เรียกร้องให้รัฐต่างๆ ทยอยฟื้นฟูภาคธุรกิจและสถานศึกษาที่ถูกปิดไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นพ.เฟาซี วัย 79 ปี ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของพวกอเมริกันขวาจัดและนักทฤษฎีสมคบคิดออนไลน์ หลังจากที่เขาออกมาเสนอแนวทางต่อสู้โรคระบาดที่ขัดแย้งกับจุดยืนของ ทรัมป์ อยู่เสมอ
เมื่อเดือน เม.ย. ทรัมป์ เคยรีทวีตข้อความรณรงค์ให้ปลด เฟาซี ออกจากตำแหน่ง หลังจากหมอใหญ่ผู้นี้ออกมาพูดว่า “อาจจะมีคนเสียชีวิตน้อยกว่านี้” หากสหรัฐฯ ประกาศชัตดาวน์แต่เนิ่นๆ ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายประเมินว่าเวลาของ เฟาซี กับรัฐบาล ทรัมป์ คงจะเหลืออีกไม่นาน
“แอนโธนี เป็นคนดีคนหนึ่ง เป็นคนดีมาก แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเขา” ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Mornings with Maria ทางช่องฟ็อกซ์บิสิเนสเมื่อวันพุธ (13)
“เราต้องการทำมันอย่างปลอดภัย และต้องเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย เราต้องเปิดเศรษฐกิจ และผมไม่เห็นด้วยกับเขาเลยในเรื่องการปิดโรงเรียน” ทรัมป์กล่าว
ด้าน บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า นพ.เฟาซี “ออกมาเตือนด้วยความสัตย์ซื่อ และผมเองก็เห็นด้วยกับเขา... ผมคิดว่าเราจะต้องก้าวเดินอย่างระมัดระวังที่สุด”