เอเอฟพี - นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนระหว่างให้ปากคำทางไกลกับสภาคองเกรสในวันอังคาร (12 พ.ค.) ว่าการยุติล็อกดาวน์เร็วเกินไปอาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรงอย่างแท้จริง ในนั้นรวมถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในขณะที่ประเทศแห่งนี้พยายามก้าวผ่านโรคระบาดใหญ่ไปให้ได้
ในการปรากฏตัวต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือน นพ.เฟาซี สมาชิกคนซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันมากที่สุดผู้หนึ่งในทีมเฉพาะกิจรับมือไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว ได้ส่งสารอย่างระมัดระวัง สวนทางกับถ้อยคำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ซึ่งกดดันให้มีการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
นักวิทยาศาสตร์ซึ่งได้รับความเคารพอย่างสูงรายนี้บอกกับคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของวุฒิสภาว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้จัดทำคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางที่ให้กิจกรรมต่างๆ กลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงต่อเนื่อง 14 วันจะเป็นก้าวย่างแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง
“หากชุมชนหรือรัฐใดหรือภูมิภาคใดก็ตาม ไม่ทำตามกรอบคำแนะนำนี้และกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ผลลัพธ์จะร้ายแรงอย่างแท้จริง” เฟาซีกล่าว “มีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่คุณจะจุดชนวนการแพร่ระบาดที่คุณอาจไม่สามารถควบคุมได้” เขากล่าว พร้อมเตือนว่ามันจะไม่ก่อความสูญเสียแค่เพียงชีวิตผู้คนเท่านั้น “แต่มันจะฉุดคุณถอยหลังบนถนนแห่งความพยายามมุ่งหน้าสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ”
ในการตอบคำถามของวุฒิสมาชิกเบอร์นีย์ แซนเดอร์ นายแพทย์เฟาซียอมรับว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ น่าจะสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ 80,000 คน เพราะว่าคนจำนวนมาก โดเฉพาะในนิวยอร์ก พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้วโดยยังไม่ทันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ด้วยสถาบันการศึกษาบางส่วนได้เริ่มแถลงแผนกลับสู่ชั้นเรียนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในเรื่องนี้นายแพทย์เฟาซี ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าวัคซีนหรือวิธีการรักษาอื่นๆ อาจพร้อมใช้ทันในช่วงกลางดังกล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ ยาต้านไวรัสยาเรมเดซิเวียร์ มีผลการทดลองทางคลินิกช่วยลดเวลาการฟื้นไข้ของผู้ป่วยโควิด-19 แต่เฟาซีบอกว่าผลการทดลองยังไม่สามารถยืนยันได้ 100%
นอกจากนี้แล้ว เฟาซีบอกว่า เขามีมุมมองทางบวกอย่างระมัดระวังต่อแนวโน้มวัคซีนรักษาโควิด-19 ในอนาคต โดยตอนนี้มีว่าทีวัคซีน 8 ตัวอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก ในนั้นรวมถึงวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา ซึ่งร่วมมือใกล้ชิดดับสถาบันสุขภาพแห่งชาติ อันเป็นสถาบันที่เฟาซีทำงานอยู่ โดย เฟาซี คาดหมายว่าช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือไม่ก็ช่วงต้นฤดูกนาว ก็น่าจะได้คำตอบว่าวัคซีนตัวดังกล่าวได้ผลหรือไม่
เฟาซี ให้ปากคำต่อสภาคองเกรสไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ทรัมป์ ทวีตข้อความย้ำอีกรอบว่า “จำนวนผู้ติดเชื้อกำลังลดลงในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศของเรา ซึ่งต้องการเปิดเศรษฐกิจและกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง มันกำลังเกิดขึ้น อย่างปลอดภัย!”
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วกว่า 1,350,000 คน ในนั้นเสียชีวิต 81,000 คน
ในขณะที่สถานการณ์ในนิวยอร์กเริ่มดีขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันทั่วประเทศก็ค่อยๆลดลงในช่วงไม่กี่วันที่่ผานมา แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังไม่ลดลงอย่างทันทีทันใด
ความเคลื่อนไหวในวันอังคาร (12 พ.ค.) ถือเป็นการให้ปากคำต่อสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกของ เฟาซี นับตั้งแต่ ทรัมป์ ประกาศให้ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และมีขึ้นหลังมีรายงานข่าวว่า เฟาซี ถูกห้ามเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรชุดหนึ่งก่อนหน้านี้