รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของสหรัฐฯ ซึ่งกลายเป็นสมาชิกในทีมงานเฉพาะกิจรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของทำเนียบขาวที่เป็นที่รู้จักมักคุ้นกันมากที่สุดคนหนึ่ง ได้ปะทะคารมกับ แรนด์ พอล วุฒิสมาชิกอเมริกันสังกัดพรรครีพับลิกัน เมื่อวันอังคาร (12 พ.ค.) ในเรื่องควรจะเปิดโรงเรียนในสหรัฐฯ ขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อใด โดยยอมรับว่าเขาไม่ได้เป็นผู้ที่พูดคำสุดท้ายในเวลามีการตัดสินใจเกี่ยวกับโรคระบาด แต่ก็เตือนว่าอย่าได้ทำตัวเป็น “อัศวินฮึกห้าว” เมื่อทำอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็กๆ
“ถึงแม้ผมนับถือคุณนะ คุณหมอเฟาซี แต่ผมก็ไม่คิดว่าคุณคือคนปิดฉากท้ายสุดหรอกนะ” ส.ว.พอล จากรัฐเคนทักกี กล่าวในระหว่างที่ เฟาซี ให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา “ผมไม่คิดว่าคุณเป็นคนที่จะเป็นผู้ตัดสินใจหรอก”
พอลยังตั้งข้อกังขาเกี่ยวกับความถูกต้องแม่นยำของโมเดลที่ใช้ในการทำนายเส้นทางเดินของโรคระบาดใหญ่คราวนี้ เขากล่าวด้วยว่าเขาเชื่อว่ามันเป็นความผิดพลาดที่ไม่ยอมให้เปิดโรงเรียนขึ้นมาใหม่
ทางด้าน เฟาซี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวตอบว่า “เราไม่ได้ทราบอะไรทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับไวรัสนี้หรอก” แต่เขาเตือนว่า “เป็นการดีกว่าจริงๆ ที่เราจะต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กๆ
“ผมคิดว่าจะเป็นการดีกว่า ถ้าพวกเราระวังตัวเอาไว้ว่าเราไม่ได้เป็นอัศวินฮึกห้าว (กล้าเสี่ยง) ที่ถึงกับขบคิดไปว่าเด็กๆ มีภูมิคุ้มกันอย่างสมบูรณ์สำหรับผลที่เป็นภัยอันตรายมากของไวรัสนี้”
เฟาซียังอ้างอิงถึงเคสเด็กๆ จำนวนหนึ่งซึ่งเจ็บป่วยด้วยกลุ่มอาการอักเสบที่ไม่ค่อยพบเห็นกันนัก โดยเชื่อกันว่ามีความเกี่ยวกับกับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้กลุ่มอาการนี้ได้คร่าชีวิตเด็กไปอย้างน้อย 3 คนแล้วในนิวยอร์ก และทำให้เด็กป่วยอีกหลายสิบคน
กลุ่มอาการดังกล่าวนี้มีอาการหลายๆ อย่างแบบเดียวกับกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก และโรคคาวาซากิ เป็นต้นว่า มีไข้, ผิวหนังเป็นผื่นแดง, ต่อมต่างๆ เกิดการบวมโต และในเคสร้ายแรง จะมีอาการอักเสบของหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ
เมื่อถูก ส.ว.พอล ระบุว่าเขาไม่ได้เป็น “คนปิดฉากท้ายสุด” ที่เป็นผู้ตัดสินใจ เฟาซีก็ตอบว่า “ผมไม่เคยทำให้ตัวผมเองกลายเป็นคนปิดฉากสุดท้ายเลย หรือเป็นเสียงเพียงเสียงเดียวในเรื่องนี้เลย ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นแพทย์ และเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผมให้คำแนะนำไปตามหลักฐานอย่างดีที่สุดในทางวิทยาศาสตร์ ... ผมไม่ได้ให้คำแนะนำในเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ผมไม่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากเรื่องสาธารณสุข”
เฟาซี ผู้ป่าวร้องสนับสนุนให้ใช้มาตรการฉุกเฉินต่างๆ เป็นต้นว่าการออกคำสั่งให้ผู้คนอยู่กับบ้าน ได้กลายเป็นเป้าหมายหนึ่งของการวิพากษ์โจมตีจากพวกขวาจัดอเมริกันและพวกนักสร้างทฤษฎีสมคบคิดทางออนไลน์ หลังจากที่การแถลงเรื่องการระบาดของเขาหลายๆ ครั้ง มีความขัดแย้งกับคำพูดของทรัมป์
ทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถือเรื่องเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เป็นประเด็นแกนกลางที่จะใช้ชูหาเสียงของเขาเพื่อให้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยในการเลือกตั้งต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เวลานี้กำลังพยายามเร่งเร้ารัฐต่างๆ เปิดเมืองเปิดธุรกิจทั้งหลาย ซึ่งถูกถือว่ายังไม่ใช่ธุรกิจจำเป็นเร่งด่วนในช่วงที่มีโรคระบาดใหญ่
ผลการสำรวจความคิดเห็นของซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอังคาร (12) แสดงให้เห็นว่า ประชาชนที่ถือว่าตนเองเป็นรีพับลิกัน 84% เชื่อถือไว้วางใจข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่เขาได้รับมาจากทรัมป์ ขณะที่ประชาชนซึ่งถือว่าตนเองเป็นเดโมแครตเชื่อแค่ 4% เวลาเดียวกันมีรีพับลิกัน 61% เชื่อถือไว้วางใจข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากเฟาซี ส่วนพวกเดโมแครตนั้นสูงถึง 81% ทีเดียว
ส.ว.พอลก็เรียนจบแพทยศาสตร์โดยเป็นจักษุแพทย์ เมื่อเดือนมีนาคมเขากลายเป็นวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ คนแรกที่ประกาศว่าเขามีผลตรวจไวรัสออกมาเป็นบวก