เอเจนซีส์ - สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษ ทรงตรัสให้กำลังใจทางโทรทัศน์ในคืนวันศุกร์ (8 พ.ค.) ได้ทรงพระราชทานพระราชดำรัส “อย่าได้ยอมแพ้ อย่าสิ้นหวัง” เนื่องในวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นชัยชนะครบรอบ 75 ปี นายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อสายแสดงการรำลึกร่วมกับผู้นำรัสเซีย
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันศุกร์ (8 พ.ค.) ว่า การออกอากาศวาระพิเศษของการรำลึกครบรอบ 75 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่อังกฤษและทั่วโลกกำลังอยู่ในระหว่างการปิดตายเมื่อเวลา 21.00 น.ของวันศุกร์ (8)
สมเด็จพระประมุขแห่งสหราชอาณาอังกฤษทรงตรัสว่า “วันนี้อาจจะเหมือนวันที่ยากลำบากที่เราไม่สามารถเฉลิมฉลองพิเศษเหมือนอย่างที่เราตั้งใจ แต่แทนที่เช่นนั้นพวกเราแสดงความรำลึกจากบ้านของเราและจากขั้นหน้าประตูบ้านของพวกเรา”
และแถลงการณ์เสริมต่อว่า “แต่ถนนของพวกเราไม่ว่างเปล่า มันเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยที่เรามีให้กัน และเมื่อข้าพเจ้ามองมาที่ประเทศของเราในวันนี้ และเห็นในสิ่งที่พวกเราปรารถนาที่จะทำในการปกป้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ข้าพเจ้าขอกล่าวด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจว่าพวกเรายังคงเป็นชาติที่ยังมีเหล่าทหารกล้า ทหารเรือ และทหารอากาศ ที่จะเป็นที่รู้จักและชื่นชม”
และพระองค์ทรงตรัสต่อว่า “อย่างได้ยอมแพ้ อย่าสิ้นหวัง”
ทั้งประเทศร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 2 นาที ในเวลา 11.00 น.ของวันศุกร์ (8) รวมไปถึงมีการวางพวงหรีดตามจุดครบรอบการรำลึกต่างๆ
ขณะที่ดยุกแห่งเวลส์และดัสเชสแห่งคอร์นวอล ได้ทรงเป็นผู้นำการรำลึกที่อนุสรณ์สงครามบาลโมรอล (Balmoral war memorial) ในสกอตแลนด์ โดยทั้งสองพระองค์ได้ทรงวางพวงหรีดและช่อดอกไม้ที่ปลูกภายในสวนส่วนพระองค์ใกล้พระตำหนักเบิร์กฮอลล์ (Birkhall) และมีการเป่าปี่สกอต รวมไปถึงการยิงปืนใหญ่ที่ปราสาทเอดิบะระในช่วงเริ่มต้นและช่วงสิ้นสุดของพิธี และมีเครื่องบินรบขับไล่กองทัพอังกฤษ ซูเปอร์มารีน สปิตไฟเออร์ (Supermarine Spitfire) บินผ่านเหนือท้องฟ้า
ทั้งนี้ พบว่า การพระราชทานพระราชดำรัสเนื่องในวันชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ ถูกบันทึกไว้ 1 สัปดาห์ก่อนหน้าในขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ กำลังทรงประทับอยู่ที่ปราสาทวินด์เซอร์ในระหว่างที่พระองค์กำลังประทับอยู่เพียงลำพังจากวิกฤตโรคไวรัสโคโรนาระบาด
พระองค์ได้ทรงตรัสในเวลาเดียวกันกับที่สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักรได้เคยทรงตรัสไว้เมื่อสงครามได้สิ้นสุดลงเมื่อ 75 ปีก่อน โดยสมเด็จพระราชินีทรงได้สดุดีต่อบรรดาคนจำนวนมากที่ได้ล้มลงในสงครามที่โหดร้าย และเสียชีวิตเพื่อที่พวกเราจะมีชีวิตในฐานะ “เสรีชน” ในโลกชาติเสรีทั้งหลาย
“พวกเราสมควรและจะจดจำพวกเขา” สมเด็จพระราชินีนาถแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษตรัส
ขณะเดียวกัน พบว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยที่ถนนดาวนิง และก่อนหน้าได้ออกแถลงการณ์ถึงบรรดาทหารผ่านศึกอังกฤษว่า “ความซาบซึ้งของพวกเราจะมีอยู่ชั่วกัลปาวสาน”
และเสริมต่อว่า “และเนื่องในโอกาสครบรอบนี้ พวกเรากำลังอยู่ในการต่อสู้ครั้งใหม่ต่อโรคไวรัสโคโรนา ที่ต้องการกำลังใจของการทุ่มเทจากทั้งชาติในระดับเดียวกันที่พวกคุณได้เคยทำไว้เป็นตัวอย่างเมื่อ 75 ปีก่อน”
จอห์นสันกล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถแสดงการรำลึกต่อพวกคุณด้วยขบวนสวนสนามและการเฉลิมฉลองบนท้องถนนเหมือนเช่นที่พวกเราต้องการในอดีต คนที่คุณรักอาจไม่สามารถเยี่ยมคุณได้เป็นการส่วนตัว”
และชี้ว่า “แต่ขอโปรดให้พวกเรา ที่ร่วมชาติเดียวกันที่คุณภาคภูมิจะเป็นคนแรกที่กล่าวแสดงความกตัญญู ความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และการปฏิญาณที่ว่า พวกคุณจะเป็นที่จดจำเสมอ”
เดอะการ์เดียนรายงานว่า จอห์นสันได้ต่อสายโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน สำหรับวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรียกว่า วัน VE โดยคนทั้งคู่ได้แสดงการรำลึกถึงความร่วมมือระหว่างอังกฤษและอดีตสหภาพโซเวียตจนทำให้สงครามสามารถยุติลงได้