เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน กลับเข้าทำงานที่ทำเนียบถนนดาวนิงเช้านี้(27 เม.ย) พร้อมเตือนประชาชนอังกฤษให้ยังคงทำตามมาตรการต่อไป ชี้อังกฤษยังไม่พร้อมที่จะผ่อนคลายการล็อกดาวน์ ขณะที่รัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อวันจันทร์(27 เม.ย)แซงหน้าจีนไปแล้วอยู่ที่ 87,147 คนขณะที่จีนมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 84,500 คน และอังกฤษมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 154,037 คน เสียชีวิต 20,795 คน
CNBC สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(27 เม.ย)ว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน แถลงหลังจากกลับเข้าทำงานในเช้าวันจันทร์(27)ว่า อังกฤษจะยังไม่เห็นการปลดล็อกในเร็ววันนี้
“เรากำลังผ่านจุดสูงสุด” และเสริมต่อว่า “เรากำลังเริ่มที่จะใกล้ประสบความสำเร็จของภารกิจที่ยิ่งใหญ่ในการป้องกันสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ NHS (National Health Service)ของเราจากการที่ต้องแบกรับภาระหนักมากจนเกินไป” โดยเขาย้ำว่าประเทศกำลังใกล้ที่จะชนะวิกฤตโควิด-19
ในการแถลงจอห์นสันรับรู้ถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนต่อการยกเลิกมาตรการปิดตายให้เร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงมากที่สุด” และได้ร้องขอให้ประชาชนอังกฤษอดทนต่อการบังคับใช้การปิดตายต่อไป
ผู้นำอังกฤษยังขอบคุณประชาชนชาวอังกฤษที่ให้ความร่วมมือระหว่างมาตรการปิดตายบังคับใช้ และรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ดอมินิก ราบ ที่ทำหน้าที่รักษาการนายกฯระหว่างที่จอห์นสันป่วยจากโรคโควิด-19
หนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า จอห์นสันได้ปรึกษาบรรดารัฐมนตรีถึงวิธีการเปลี่ยนแปลงมาตรการปิดตายมากกว่าที่จะออกคำสั่งยกเลิก โดยชี้ไปว่าจะยังคงมีมาตรการบางอย่างใช้ต่อไปในช่วงระหว่างที่โรงเรียนและสำนักงานกลับมาเปิดอีกครั้ง
มาตรการปิดตายเริ่มต้นใช้ในอังกฤษตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค เว้นแต่ในส่วนบริการสำคัญเป็นต้นว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่ทว่ากลับกลายว่าสาธารณชนเริ่มเหนื่อยหน่ายจากการถูกปิดตาย และทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องตัดสินใจระหว่างความเสียหายทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสาธารณชนต่อไวรัสโคโรนาหากว่าการปิดตายถูกยกเลิกเร็วเกินไปจนส่งผลอาจมีการโจมตีระลอก 2 เกิดขึ้น
อังกฤษในวันจันทร์(27)มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 154,037 คน เสียชีวิต 20,795 คน ขณะที่รัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อวันจันทร์(27 เม.ย)แซงหน้าจีนไปแล้วอยู่ที่ 87,147
โดยหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษอ้างอิงการรายงานของสื่อทาซ(TASS)รัสเซียว่า ในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมารัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ 6,198 คน ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมในเวลานี้สูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อของจีน
นอกจากนี้รัสเซียยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มที่ 50 คนส่งผลทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมที่ 794 คน
