รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียประกาศขยายเวลาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไปอีก 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) พร้อมสั่งการให้รัฐบาลเตรียมผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. เป็นต้นไป ในขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในแดนหมีขาวพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และมียอดสะสมกว่า 90,000 คน
แม้ ปูติน จะอ้างว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มมีแนวโน้ม ‘ทรงตัว’ แต่ก็ย้ำเตือนชาวรัสเซียว่า ‘วันคืนที่เลวร้ายที่สุด’ ของโรคระบาดยังรออยู่ข้างหน้า
รัสเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 6,411 รายเมื่อวานนี้ (28) ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 93,558 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 72 ราย รวมเป็น 867 ราย
สถิติเหล่านี้ทำให้รัสเซียกลายเป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก แต่ยังคงมีผู้เสียชีวิตต่ำกว่าหลายๆ ประเทศที่การแพร่ระบาดหนักหน่วงพอกัน
“เราอาจกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโรคระบาด” ปูติน กล่าวต่อผู้บริหาร 85 ภูมิภาคของรัสเซียผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ผู้นำหมีขาวสั่งขยายมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองต่อไปจนถึงวันที่ 11 พ.ค. และเตือนชาวรัสเซียให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวในที่สาธารณะช่วงวันหยุดเดือนพฤษภาคม ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นเวลาที่คนรัสเซียออกเดินทางท่องเที่ยวหรือตั้งวงปิกนิกนอกบ้าน
ปูติน ยังสั่งให้รัฐบาลเตรียมร่างคำแนะนำสำหรับผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองหลังวันที่ 12 พ.ค. และจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 3 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19
รัฐบาลเครมลินใช้งบประมาณไปแล้วเกือบ 3 ล้านล้านรูเบิล หรือประมาณ 130,000 ล้านบาท เพื่อพยุงเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉิน และมีการเสนอให้ธนาคารใหญ่ๆ รับซื้อตราสารหนี้รัฐบาลเพื่อระดมเงินทุนกู้วิกฤตโควิด-19
ข้อมูลจากเสิร์ชเอนจิน Yandex ของรัสเซียพบว่าประชาชนในกรุงมอสโกไม่ค่อยจะเชื่อฟังคำสั่งล็อกดาวน์เท่าไหร่นัก โดยมีดัชนีการกักตัวลดลงมาอยู่ที่ 3.0 จาก 5 ระดับเมื่อวานนี้ (28)
เมืองหลวงรัสเซียเป็นพื้นที่ที่ไวรัสแพร่ระบาดหนักสุด และภาครัฐได้ออกข้อจำกัดต่างๆ อย่างเข้มข้นที่สุดเช่นกัน โดยประชาชนจะต้องดาวน์โหลดใบอนุญาตก่อนออกนอกเคหะสถาน ซึ่งอีก 20 ภูมิภาคของรัสเซียก็มีแผนที่จะนำมาตรการเดียวกันนี้มาใช้ด้วย