รอยเตอร์ - รัสเซียมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยัน แซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันจันทร์ (27 เม.ย.) หลังยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับขึ้นเหนือ 87,000 คน ในขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญแรงกดดันหนักหน่วงขึ้นให้พิจารณาผ่อนปรนล็อกดาวน์ เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากโรคระบาดใหญ่
รัสเซีย ชาติที่มีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดในโลก อยู่ในมาตรการล็อกดาวน์ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงออกคำสั่งปิดสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม โดยมาตรการเหล่านั้นมีกำหนดหมดอายุในวันที่ 30 เมษายน และ ปูติน ยังไม่พูดอย่างชัดเจนว่าเขามีแผนขยายคำสั่งล็อกดาวน์ออกไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แอนนา โปโปวา ผู้อำนวยการสำนักงาน Rospotrebnadzor หน่วยงานเฝ้าระวังด้านสุขอนามัยของรัสเซีย บอกผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐในวันจันทร์ (27 เม.ย.) ว่าในมุมมองของเธอ รัสเซียควรคงข้อจำกัดต่างไปจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม
ก่อนหน้านี้ มิคาอิล มิชูสติน เป็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ร้องขอให้รัฐบาลของเขายื่นข้อเสนอต่างๆภายในวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) เพื่อพิจารณาผ่อนปรนข้อจำกัดบางอย่างแก่ภาคธุรกิจ หลังจากหลายบริษัทเตือนว่าพวกเขาเสี่ยงล้มละลายหากว่ายังคงเดินหน้าล็อกดาวน์ต่อไป ในขณะที่พนักงานหลายหมื่นคนถูกเลิกจ้างไปแล้ว
“ทันทีที่สถานการณ์มีแนวโน้มเปลี่ยนไปในทางที่ดี เราจะเป็นต้องพิจารณายกเลิดข้อจำกัดบางอย่างที่กำหนดต่อบางบริษัทและบางปฏฺิบัติการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน” มิชูสตินกล่าวระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรีทางออนไลน์
เสียงเรียกร้องผ่อนปรนล็อกดาวน์มีขึ้นแม้ว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในรัสเซีย เริ่มลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อยๆ ด้วยล่าสุดในวันจันทร์ (27 เม.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 6,198 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 87,147 คน กลายเป็นชาติล่าสุดต่อจากตุรกีที่มีผู้ติดเชื้อสะสมแซงหน้า จีน แหล่งที่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ จีนมียอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ 82,830 คน และตอนนี้พวกเขากำลังเบนเป้าไปต่อสู้กับผู้ติดเชื้อนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับบุคคลที่เดินทางมาจากรัสเซีย