รอยเตอร์ - มาเลเซียจะขยายข้อจำกัดด้านการเดินทางและอื่นๆซึ่งมีเป้าหมายต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ออกไปอีก 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยาสซิน ในวันพฤหัสบดี (23 เม.ย.) แต่จะอนุญาตให้ภาคส่วนต่างๆ กลับมาเปิดปฏิบัติการได้เพิ่มเติม
ประเทศแห่งนี้ซึ่งจนถึงตอนนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อสะสม 5,603 คน และเสียชีวิต 95 คน เริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ทั้งนี้ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่มาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดอาเซียน ทว่านับตั้งแต่นั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันค่อยๆ ชะลอตัวลงเหลือเพียงเลข 2 หลัก และปัจจุบันหล่นมารั้งอันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลดอย่างมีนัยสำคัญ บางทีรัฐบาลอาจผ่อนปรนข้อจำกัดความเคลื่อนไหวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในหลายๆ ภาคส่วน ในนั้นรวมถึงภาคสังคม” มูห์ยิดดิน กล่าวระหว่างแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ อย่างไรก็ตามเขาบอกว่ามาตรการที่เรียกว่า “คำสั่งควบคุมความเคลื่อนไหว” จะถูกขยายออกไปเพิ่มเติม”
“จะมีการมอบรายละเอียดคำแนะนำแก่นักลงทุนและภาคธุรกิจสำหรับกลับมาเดินเครื่องภาคส่วนของพวกเขา” เขากล่าว “ระหว่างการขยายกรอบเวลาของคำสั่งควบคุมความเคลื่อนไหว รัฐบาลจะศึกษาหนทางสำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในนั้นรวมถึงแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะกลางเพื่อรับประกันว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วทันทีที่สิ้นสุดคำสั่งควบคุมความเคลื่อนไหว”
นายกรัฐมนรีรายนี้บอกว่า เขาได้ขอให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังกำหนดแผนๆหนึ่งขึ้นมา ที่จะส่งเสริมการใช้จ่ายภายในประเทศเช่นเดียวกับมาตรการอื่นๆ ในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของอาเซียนแห่งนี้
เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางมาเลเซียประมาณการว่าเศรษฐกิจของประเทศจะหดตัวสูงสุดถึง 2% หรือไม่ก็เติบโตเพียง 0.5% ซึ่งเท่ากับเป็นการขยายเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ในขณะที่เมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจของมาเลเซีย ขยายตัว 4.3%
ในส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอาเซียนนั้น สิงคโปร์ ยังเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1,037 คนในวันพฤหัสบดี (23 เม.ย.) ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 11,178 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตเลย
อันดับ 2 ได้แก่ อินโดนีเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 7,775 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 357 คน เสียชีวิตเพิ่ม 12 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 647 คน อันดับ 3 คือฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 271 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,981 คน เสียชีวิตเพิ่ม 16 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 462 คน
ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,839 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 50 คน