เอเจนซีส์ - ฝรั่งเศสและสเปนเตรียมเปิดเผยแผนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในวันอังคาร (28 เม.ย.) ขณะที่คนออสเตรเลียออกไปเล่นเซิร์ฟกันอย่างสนุกสนานบนหาดบอนดี หลังทางการปลดล็อกการปิดเมืองขั้นตอนแรก
ประเทศต่างๆ เริ่มวางแผนผ่อนคลายมาตรการจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาที่อุบัติขึ้นในจีน เป็นที่แรกเมื่อปลายปีที่แล้ว และขณะนี้ระบาดทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อกว่า 3 ล้านคน และเสียชีวิตอย่างน้อย 209,000 คน ซึ่ง 1 ใน 4 อยู่ในอเมริกา ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาคือ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร
ขณะที่อัตราการเสียชีวิตชะลอลง รัฐบาลในหลายประเทศกำลังคิดหาวิธีผ่อนคลายคำสั่งกักตัวอยู่บ้านที่ส่งผลร้ายแรงทั้งต่อเศรษฐกิจและสภาพจิตใจประชาชน โดยไม่ทำให้โรคระบาดกลับมาอีก
วันอังคาร ชาวออสเตรเลียหลายร้อยคนออกไปว่ายน้ำและเล่นเซิร์ฟที่หาดบอนดีในซิดนีย์ หลังจากตำรวจสั่งปิดหาดมา 5 สัปดาห์เนื่องจากคนจำนวนมากเพิกเฉยต่อกฎการเว้นระยะห่างทางสังคม
เช่นเดียวกับชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากที่พุ่งไปที่ร้านฟาสต์ฟูดและร้านกาแฟ ภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ห้ามการซื้ออาหารและเครื่องดื่มกลับบ้าน โดยให้สั่งเพื่อจัดส่งมาที่บ้านมาอย่างเดียว ซึ่งบังคับใช้มา 5 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน หลายรัฐในอเมริกาเริ่มดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ส่วนบางประเทศในยุโรปอนุญาตให้โรงเรียนและร้านค้าเปิดให้บริการอีกครั้ง
นับจากสัปดาห์หน้า ชาวอิตาลีจะสามารถออกกำลังกายกลางแจ้งและไปเยี่ยมญาติ แต่ต้องสวมหน้ากาก รวมทั้งห้ามจับมือและสวมกอด
สเปนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้ และเตรียมประกาศแผนการเพิ่มเติมในวันอังคาร เช่นเดียวกับฝรั่งเศสที่จะเริ่มผ่อนคลายการกักตัวตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงมืดมน ท่ามกลางคำเตือนว่า จะเกิดภาวะถดถอยเลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ และราคาน้ำมันทรุดฮวบ อุตสาหกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวบอบช้ำอย่างมาก
วันจันทร์ (27) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีจีนเรื่องการจัดการวิกฤตอีกคำรบ โดยบอกว่า อเมริกาอาจเรียกร้องค่าเสียหายจากโรคระบาดนี้ ซึ่งจะมากกว่าที่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของเยอรมนีเรียกร้องให้จีนจ่ายเงิน 165,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา ถึงแม้พวกผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศต่างบอกกันว่า นอกจากเป็นลูกเล่นในเชิงสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเองแล้ว มีโอกาสน้อยมากที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีจีนในลักษณะนี้ได้
สำหรับเรื่องการเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหรัฐฯนั้น ถึงแม้พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพคัดค้าน แต่บางรัฐก็เริ่มดำเนินการกันแล้ว ท่ามกลางความยินดีของประชาชนบางส่วน
จากการวิเคราะห์ของนักวิจัยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สแตท รัฐส่วนใหญ่ของอเมริกายังมีชุดตรวจโควิดไม่เพียงพอที่จะผ่อนคลายคำสั่งกักตัวอยู่บ้าน
ทว่า ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัฐบาลได้แจกจ่ายชุดตรวจอย่างรวดเร็ว และเขาหวังว่า โรงเรียนจำนวนมากจะเปิดอีกครั้งแม้เหลือเวลาไม่มากนักสำหรับปีการศึกษาปัจจุบันก็ตาม
วันอังคาร ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่ต้องเลื่อนออกไป ตอกย้ำสถานการณ์โลกที่ยังไร้ความแน่นอน โดยกล่าวว่า อาจต้องเลื่อนการจัดงานออกไปอีก หากปีหน้ายังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้
นอกจากนั้น ขณะที่สถานการณ์การระบาดของหลายประเทศเริ่มชะลอลง แต่อีกหลายประเทศกลับตรงกันข้าม เช่น อังกฤษที่มีแนวโน้มกลายเป็นประเทศที่อาการหนักที่สุดในยุโรป โดยข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (โอเอ็นเอส) ที่ออกมาในวันอังคารระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ในอังกฤษและเวลส์ ทะลุ 20,000 คน ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลข 21,284 คน สูงกว่าสถิติผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลที่รัฐบาลเผยแพร่ในวันดังกล่าวถึง 52%
เท่ากับว่า ยอดผู้เสียชีวิตของสหราชอาณาจักร ณ วันที่ 17 เมษายนสูงกว่าฝรั่งเศสและสเปน
เช่นเดียวกับรัสเซียที่รายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 6,411 คน สูงสุดในรอบวันเดียว รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 93,558 คน แซงจีนและอิหร่านกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลกอันดับ 8
ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 72 คน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในวันเดียวเช่นกัน รวมเป็น 867 คน
รัสเซียบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์มาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม และประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ยังไม่ได้เปิดเผยว่า จะขยายมาตรการนี้ที่จะสิ้นสุดลงในวันพฤหัสฯ (30) หรือไม่ โดยประมุขวังเครมลินมีกำหนดปราศรัยในวันอังคาร