เอเจนซีส์ - ทรัมป์ทำงง “นึกไม่ออก” ทำไมคนอเมริกันระดมโทรสายด่วนถามเรื่องยาฆ่าเชื้อ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนแนะนำให้ฉีดสารนี้เพื่อป้องกันโควิด-19 เวลาเดียวกันผู้นำสหรัฐฯ และลูกน้องยังรวมหัวโจมตีจีนไม่หยุด ว่า เป็นต้นเหตุโรคระบาด ขณะที่ปักกิ่งสวนกลับ นักการเมืองอเมริกัน “บอกเล่าความเท็จอย่างหน้าด้านๆ” เพื่อหันเหความสนใจของประชาชนจากการรับมือไวรัสอย่างย่ำแย่
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26) ทั้งผู้ว่าการของรัฐมิชิแกน และของรัฐแมริแลนด์ ต่างกล่าวหาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวการทำให้ประชาชนแห่โทรสายด่วน ขณะที่เจ้าตัวแก้เกี้ยวหลังถูกผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์วิจารณ์ยับว่า แค่อยากประชดนักข่าวเท่านั้น
ทั้งนี้ ยาฆ่าเชื้อเป็นสารอันตรายและเป็นพิษถึงชีวิตหากกินเข้าไป
ต่อมาระหว่างการแถลงข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ (27) ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า สายด่วนรายงานเหตุฉุกเฉินของรัฐแมริแลนด์ได้รับสายจากประชาชนหลายร้อยคนในช่วงไม่กี่วันมานี้ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องที่ทรัมป์บอกให้ฉีดยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนา
ประมุขทำเนียบขาวได้แต่ตอบว่า “นึกไม่ออกเลยว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น” และเมื่อถูกถามว่า ตัวเขาต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ ทรัมป์ตอบทันทีว่า “ไม่”
สัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ได้ออกคำเตือนประชาชนห้ามกินหรือฉีดยาฆ่าเชื้อ ภายหลังจากที่ทรัมป์แถลงเรื่องดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสฯ (23) หลังเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเสนอผลการวิจัยของรัฐบาลที่แสดงให้เห็นว่า น้ำยาฟอกขาวสามารถฆ่าไวรัสโคโรนาภายในไม่กี่นาที
บ่ายวันถัดมา (24) ทรัมป์แก้ตัวว่า แค่อยากตั้งคำถามประชดนักข่าว และดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ขณะที่เขาพูดเรื่องนี้ในวันพฤหัสฯนั้น เขากำลังคุยกับที่ปรึกษาทางการแพทย์โดยตรง อีกทั้งไม่มีน้ำเสียงประชดประชันแต่อย่างใด
ระหว่างการแถลงข่าวในทำเนียบขาววันจันทร์ ทรัมป์ตอบคำถามนักข่าว ว่า ไม่คิดจะเลื่อนกำหนดการเลือกตั้งประธานาธิบดีแบบที่โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดี และว่าที่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต พูดดักคอไว้ก่อนหน้านี้ โดยทรัมป์กล่าวว่าไบเดนมุ่ง “โฆษณาชวนเชื่อ”
ผู้สื่อข่าวยังถามว่า ประธานาธิบดีที่สูญเสียพลเมืองอเมริกันในช่วง 6 สัปดาห์จำนวนมากกว่าทหารอเมริกันที่ตายในสงครามเวียดนามเมื่อสองทศวรรษที่แล้ว สมควรได้รับเลือกอีกสมัยหรือไม่ และได้คำตอบจากทรัมป์ว่า คณะบริหารของตนปฏิบัติหน้าที่ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันในอเมริกาขณะนี้เพิ่มเป็นเกือบ 1 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 56,000 คน
ทรัมป์ยังประกาศว่า วิกฤตเศรษฐกิจและโรคระบาดในอเมริกากำลังผ่านจุดแย่สุด และคาดว่า จะมีการฟื้นตัวอย่าง “เหลือเชื่อ” ในปีหน้า
ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่เลิกตอแยกับจีน โดยบอกว่า ปักกิ่งควรหยุดยั้งไวรัสโคโรนาตั้งแต่แรกแทนที่จะปล่อยให้ระบาดทั่วโลกแบบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และสำทับว่า คณะบริหารของตนกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
วันเดียวกัน ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาวที่ได้รับมอบหมายจากทรัมป์ให้รับผิดชอบด้านอุปทานเกี่ยวกับวิกฤตไวรัส กล่าวหาว่า จีนส่งชุดตรวจโควิดปลอมหรือคุณภาพต่ำไปให้อเมริกา รวมทั้งกล่าวหาว่า ปักกิ่งค้ากำไรเกินควรจากโรคระบาด
นาวาร์โร โจมตีว่า จีนซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบไวรัสโคโรนา เป็นตัวการแพร่เชื้อโรคนี้ผ่านพลเมืองนับแสนคนที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ และด้วยการปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นนานถึง 6 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนั้นจีนได้กักตุนอุปกรณ์ปกป้องส่วนบุคคล (พีพีอี) ที่จำเป็นต่อบุคลากรทางการแพทย์ และนำมาขายทำกำไรเกินควรในสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่า วอชิงตันเชื่ออย่างจริงจังว่า ปักกิ่งไม่ได้รายงานสถานการณ์โรคระบาดอย่างทันท่วงที และปิดบังอันตรายของไวรัสร้ายนี้
วันจันทร์ หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ทวีตว่า พอมเพโอควรหยุดเล่นเกมการเมืองและเก็บแรงไว้ช่วยชีวิตประชาชนมากกว่า
ต่อมาในวันอังคาร เกิ่ง ส่วง โฆษกอีกคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามเรื่องนี้ของผู้สื่อข่าว โดยกล่าวว่า “พวกนักการเมืองอเมริกาเพิกเฉยละเลยความจริงซ้ำแล้วซ้ำอีก และกำลังบอกเล่าความเท็จอย่างน่าด้านๆ”
“พวกเขามีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั้นคือ หลบเลี่ยงความรับผิดชอบของพวกเขาในการที่พวกเขาดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดได้อย่างย่ำแย่ และจึงต้องการหันเหความสนใจของสาธารณชน” เขากล่าวต่อ
เกิ่งย้ำว่า พวกนักการเมืองสหรัฐฯควร “ขบคิดไตร่ตรองปัญหาต่างๆ ของพวกเขาเอง และหาวิธีการในการควบคุมการระบาดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”