ซีเอ็นเอ็น - สหราชอาณาจักรอาจประสบกับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มากกว่า 100,000 คน หากว่ารัฐบาลผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ หันไปมุ่งเน้นเฉพาะปกป้องกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงมากที่สุด จากความเห็นของบรรดานักระบาดวิทยาของประเทศในวันจันทร์ (27 เม.ย.)
นีล เฟอร์กูสัน หนึ่งในคณะนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งคอยให้คำแนะนำแก่รัฐบาล ในแนวทางตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “คนกลุ่มเสี่ยงที่สุดเสียชีวิตในบ้านพักคนชราหรือมีโรคประจำตัว”
ในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าว “Unherd” นายแพทย์เฟอร์กูสัน บอกต่อว่า “ผมมีความสงสัยเป็นอย่างมากว่าเราจะสามารถนำพาแนวทางป้องกันนี้ไปสู่ยุทธศาสตร์ที่ใช้การได้ในทางปฏิบัติ” เขาอ้างถึงแนวคิดผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ สำหรับคนส่วนใหญ่ ขณะที่รัฐบาลจะหันไปมุ่งเน้นในความพยายามปกป้องคนกลุ่มเสี่ยงที่สุดแทน
“แม้นหากคุณประสบความสำเร็จราวๆ 80% ในมาตรการปกป้องดังกล่าว หรือลดความเสี่ยงติดเชื้อในคนกลุ่มนี้ได้ถึง 80% แต่เรายังคงประมาณการว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100,000 คน ในช่วงปลายปีอยู่ดี”
คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักหน่วงให้ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์บางประการ ซึ่งกำหนดมาเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม เฟอร์กูสัน ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาแห่งวิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน ให้ความเห็นว่า ข้อจำกัดต่างๆ ที่กำหนดออกมากำลังได้ผล โดยเขาบอกว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อระหว่างคนต่างครอบครัวลดลงถึง 80-90% และด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่ามันจะฉุดอัตราการติดต่อให้ลดต่ำลง
“เราฉุดอัตราการแพร่เชื้อต่อลงสู่ราวๆ 0.6 ถึง 0.7 ซึ่งนั่นหมายความว่า โรคระบาดใหญ่กำลังอยู่ในขาลงแล้วตอนนี้” เขากล่าว พร้อมเน้นว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาผ่อนปรนและไม่ควรผ่อนปรนใดๆ โดยไม่มีข้อกำหนดอื่นๆ มารองรับ “หากเราต้องการละทิ้งล็อกดาวน์ กลับมาเปิดโรงเรียน, สถานที่ทำงาน อนุญาตให้ผู้คนชอปปิ้งอีกครั้ง เราจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ มาแทนที่”
เสียงเรียกร้องให้ผ่อนปรนล็อกดาวน์มีขึ้น หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) สหราชอาณาจักร มีจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันน้อยที่สุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยพบผู้เสียชีวิตเพียง 413 คน
มาตรการล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักรในเบื้องต้นมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม และถูกขยายกรอบเวลามาแล้วหนหนึ่งเมื่อวันที่ 16 เมษายน ขณะที่ทางรัฐบาลมีกำหนดทบทวนมาตรการดังกล่าวอีกรอบในวันที่ 7 พฤษภาคม