เอเจนซีส์ - นักเรียนในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ได้กลับเข้าห้องเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ (27 เม.ย.) หลังหยุดยาวมากว่า 3 เดือน เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกที่เดินหน้าผ่อนคลายการล็อกดาวน์หลังผ่านพ้นช่วงเลวร้ายที่สุดของโรคระบาดโควิด-19 โดยอิตาลีจะเริ่มยกเลิกมาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นบางส่วนตั้งแต่ต้นเดือนหน้า
4 ประเทศยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาหนักที่สุด ต่างรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันลดลงต่อเนื่อง จุดประกายความหวังว่า โรคระบาดอาจผ่านพ้นจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้วอย่างน้อยในขณะนี้ อย่างไรก็ดี บรรดาผู้นำประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพยังมีความเห็นต่างกันว่า ควรผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อฟื้นกิจกรรมเศรษฐกิจเมื่อใดและอย่างไร เพื่อรักษาสมดุลระหว่างเสรีภาพของประชาชนกับความปลอดภัยสาธารณะ
อิตาลีและนิวยอร์กเวลานี้วางแผนกันแล้วที่จะเปิดเมืองคลายมาตรการล็อกดาวน์กันเป็นบางส่วน ด้านฝรั่งเศสและสเปนคาดหมายจะเจริญรอยตามในสัปดาห์นี้ ขณะที่ในจีน นักเรียนหลายหมื่นคนในชั้นปีสุดท้ายของมัธยมปลายและของมัธยมต้นในเซี่ยงไฮ้ และเฉพาะนักเรียนปีสุดท้ายมัธยมปลายในปักกิ่ง ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าห้องเรียน หลังจากหยุดยาวมากว่าสามเดือน
กระทรวงศึกษาธิการของจีน แจ้งว่า นักเรียนในปักกิ่งต้องวัดอุณหภูมิหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนและโชว์รหัสสุขภาพ “สีเขียว” บนแอปในมือถือซึ่งคำนวณความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้ใช้ ก่อนได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียน
จำนวนผู้ติดเชื้อในจีน ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ไวรัสโคโรนาอุบัติขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ลดลงอย่างชัดเจนขณะที่ทางการเริ่มยกเลิกมาตรการควบคุมอย่างระมัดระวัง แม้กลัวว่าโรคระบาดอาจกลับมาอีกและยังกังวลกับเคสที่เดินทางมาจากต่างประเทศก็ตาม
ส่วนที่นอร์เวย์ โรงเรียนประถมศึกษาเริ่มเปิดในวันจันทร์ เช่นเดียวกับธุรกิจบางอย่างในสวิตเซอร์แลนด์ เช่น ร้านตัดผมและร้านดอกไม้
นิวซีแลนด์มีกำหนดยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทีละขั้นตอนในช่วงคืนวันจันทร์ หลังจากไม่พบการระบาดในวงกว้างหรือในชุมชน และนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับโควิด-19
ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่กว่า 205,000 คนทั่วโลก โดยกว่า 1 ใน 4 อยู่ในอเมริกา
อันดับ 2 คือ อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 26,000 คน ตามด้วย สเปน ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ประเทศละกว่า 20,000 คน
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ (26) ถือว่าต่ำสุดนับจากวันที่ 31 มีนาคม ขณะที่อิตาลีและสเปนมีผู้เสียชีวิตต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ส่วนฝรั่งเศสลดลงกว่า 1 ใน 3 จากวันเสาร์ (25)
ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับยุโรปที่บังคับใช้มาตรการจำกัดอย่างเข้มงวดเพื่อชะลอการระบาด
นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนติ ของอิตาลี กล่าวว่า คงไม่สามารถขยายมาตรการล็อกดาวน์ออกไปอีก เนื่องจากอาจทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเสียหายมากเกินไป พร้อมเปิดเผยแผนการยกเลิกการชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในยุโรปที่เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม
กระนั้น ประชาชนอิตาลีจะต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะและรักษาระยะห่างทางสังคมต่อไป เมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการจำกัดตั้งแต่วันที่ 4 เดือนหน้า
ที่อังกฤษ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน กลับเข้าทำงานเมื่อวันจันทร์ หลังเข้ารับการรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 และแถลงว่า ยังอันตรายเกินไปที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในตอนนี้ เนื่องจากอาจทำให้ไวรัสกลับมาระบาดรอบสอง
โรคระบาดนี้ที่มีผู้ติดเชื้อเกือบ 3 ล้านคน ทำให้ประชากรกว่าครึ่งโลกถูกล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจโลกดำดิ่งสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเริ่มลดลง โลกยังคงเฝ้ารอวิธีการรักษาและวัคซีนต่อต้านไวรัสโคโรนาอย่างใจจดใจจ่อ
ขณะเดียวกัน หลายประเทศวางแผนใช้แอปติดตามการสัมผัสโรคเพื่อเตือนผู้ใช้หากอยู่ในบริเวณที่มีผู้ติดเชื้อ โดยในวันจันทร์มีรายงานว่า ชาวออสเตรเลียเกือบ 2 ล้านคน ดาวน์โหลดแอปนี้แม้มีความกังวลในเรื่องอาจถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวก็ตาม
ที่นิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐ เผยว่า การเปิดเมืองขั้นตอนแรกจะเริ่มต้นในวันที่ 15 พฤษภาคม หากจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลลดลง
แต่สำหรับรัฐอื่นในอเมริกา กรอบเวลานี้ดูเหมือนนานเกินรอ
จอร์เจียเพิกเผยต่อคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและอนุญาตให้ธุรกิจหลายพันประเภทเริ่มเปิดดำเนินการอีกครั้ง ส่วนโอกลาโฮมาจะเปิดร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ตั้งแต่เดือนหน้า
