รอยเตอร์ - สวีเดนในวันศุกร์(24เม.ย.) ว่าจะปิดร้านอาหารและบาร์ในเมืองหลวง หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งมีเป้าหมายป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ท่ามกลางสัญญาณว่าพลเมืองในกรุงสตอกโฮล์มเริ่มเพิกเฉยต่อกฎระเบียบต่างๆ ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กรุงสตอกโฮล์มเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในสวีเดน โดยมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คิดเป็นราวๆครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดทั่วประเทศ
มิคาเอล ดัมเบิร์ก รัฐมนตรีมหาดไทย บอกว่าเริ่มพบเห็นสัญญาณแห่งความกังวลมากขึ้น เนื่องจากพออุณหภูมิอุ่นขึ้น พวกผู้คนในเมืองหลวงก็เริ่มเพิกเฉยต่อคำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคม
"พอแสงแดดเริ่มสาดส่อง เราก็เริ่มพบเห็นรายงานที่น่ากังวลบางอย่าง กรณีที่ร้านอาหารกลางแจ้งทั้งหลายแน่นไปด้วยลูกค้า สถานที่สาธารณะเต็มไปด้วยผู้คน และเราจำเป็นต้องจริงจังกับเรื่องนี้" ดัมเบิร์กกล่าวระหว่างแถลงข่าว "ผมไม่ต้องเห็นร้านอาหารกลางแจ้งร้านใดในสตอกโฮล์มหรือเมืองไหนๆแน่นไปด้วยลูกค้า มิเช่นนั้นแล้วธุรกิจเหล่านี้จะต้องถูกปิด"
เขาเน้นย้ำว่ามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจะใช้กับบาร์และร้านอาหารทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ในสตอกโฮล์มเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ในสวีเดนไม่ได้กำหนดมาตรการล็อกดาวน์ใดๆ เป็นพิเศษอย่างที่พบเห็นกันทั่วยุโรป โดยประเทศแห่งนี้พึ่งสามัญสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมของประชาชนเป็นสำคัญ และมาตรการต่างๆเหล่านั้นล้วนอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจ ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โรงเรียนระดับประถมและมัธยมยังคงเปิดการเรียนการสอน ส่วนรัฐบาลเพียงแค่ห้ามมั่วสุมกันบริเวณเคาน์เตอร์ของบาร์ และห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 50 คน ในขณะที่อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงมีเสิร์ฟบนโต๊ะตามปกติทั้งกลางแจ้งและภายในร้าน
Anna Konig Jerlmyr ผู้บริหารด้านการคลังของกรุงสตอกโฮล์ม บอกว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองหลวงจะยกระดับการตรวจตราเพื่อรับประกันว่าบาร์และร้านอาหารต่างจะปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมตลอดเวลา
"นี่คือความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดที่สตอกโฮล์มต้องเผชิญในยุคสมัยใหม่" เธอกล่าว "ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่คำแนะนำทั่วๆไป เหล่านี้คือกฎระเบียบที่มีความสำคัญต่อชีวิตและสุขภาพ และทุกคนต้องปฏิบัติตามตลอดเวลา"
ในบรรดาผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2,021 คนทั่วประเทศจนถึงวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) มีมากกว่า 1,100 คนเสียชีวิตในสตอกโฮล์ม
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดในวันศุกร์(24เม.ย.) สวีเดนพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 812 คน เสียชีวิต 131 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 17,567 คนและเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 2,152 คน แม้ว่าการตรวจหาเชื้อนั้นส่วนใหญ่แล้วสงวนไว้เฉพาะคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเท่านั้น
ส่วนหนึ่งในแนวทางของสวีเดน คือต้องพึ่งพิงการเข้าถึงระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก และด้วยที่สวีเดนเป็นหนึ่งในชาติที่มีระบบบริการสุขภาพดีที่สุดในโลก เบื้องต้นประเด็นนี้จึงไม่มีปัญหา แต่ล่าสุดสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดีนัก
"ระบบสาธารณสุขกำลังอยู่ภายใต้การแรงกดดันอย่างหนักหน่วง" เพอร์ ฟอลลิน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคในสต๊อกโฮล์มระบุ "เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆที่เรามี เพื่อยุติเรื่องนี้โดยเร็ว"