รอยเตอร์ - บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ออกจากหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) แล้วในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากฟื้นไข้จากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องอยู่ภ่ยใต้การสังเกตอาการในโรงพยาบาล
จอห์นสัน ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเซนต์โธมัส เมื่อคืนวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) หลังยังมีอาการเรื้อรังจากการติดเชื้อโควิด-19 นานกว่า 10 วัน นับตั้งแต่ทราบผลว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ในนั้นรวมถึงยังมีไข้สูงและไอ
ก่อนที่ในวันจันทร์ (6 เม.ย.) อาการของเขาทรุดลงและถูกย้ายเข้าห้องไอซียู โดยแพทย์ต้องใช้ออกซิเจนผู้นำแห่งสหราชอาณาจักรวัย 55 ปีรายนี้ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
หลังจากเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูได้ 3 คืน ทางโฆษกทำเนียบนายกรัฐมนตรีแถลงในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ว่า “นายกรัฐมนตรีย้ายออกจากห้องไอซียูกลับไปยังห้องปกติของโรงพยาบาลในช่วงเย็นวันนี้ และเขาจะอยู่ภายใต้การสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ระหว่างระยะแรกของการฟื้นไข้” โฆษกระบุ “เขามีกำลังใจเข้มแข็งดีมากๆ”
จอห์นสัน เป็นผู้นำโลกคนแรกที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 บีบให้เขาต้องมอบหน้าที่ดูแลชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของโลกให้แก่ โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศ ในขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในสหราชอาณาจักรมาถึงจุดสูงสุดพอดี
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เขียนบนทวิตเตอร์เกี่ยวกับข่าวคราวอาการที่ดีขึ้นของจอห์นสันว่า "เป็นข่าวดีมาก"
อย่างไรก็ตาม ในถ้อยแถลงของรัฐบาลไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเมื่อไหร่ที่ จอห์นสัน จะสามารถกลับมาทำหน้าที่ผู้นำอีกครั้ง ส่วน ราบ เน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือปล่อยให้นายกรัฐมนตรีฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์เสียก่อน
ราบ เข้ามาทำหน้าที่แทน จอห์นสัน ในขณะที่สหราชอาณาจักรเข้าสู่ภาวะล็อคดาวน์ครั้งเข้มงวดที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาแห่งสันติ
ก่อนหน้านี้ ราบ แถลงว่ายังเร็วเกินไปที่จะยุติมาตรการล็อกดาวน์ เพราะว่าสหราชอาณาจักรยังไม่ถึงจุดพีคของการแพร่ระบาดดี
ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตามโรงพยาบาลต่างๆ ของอังกฤษในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) อยู่ที่ 881 คน ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 7,978 คน อย่างไรก็ตาม ถือว่ามันเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง หลังจากเมื่อวันพุธ (9 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตมากถึง 938 ศพ
