xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ไม่ยอม! ตอกกลับ WHO ใครกันแน่เล่นการเมืองโควิด-19 ซัดหงอจีนจนเมินคำเตือนไต้หวัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก
เอเอฟพี - สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) กล่าวหาองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความสำคัญกับประเด็นทางการเมืองมาเป็นลำดับแรก เพิกเฉยต่อคำเตือนของไต้หวันเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน จนกระทั่งสถานการณ์ลุกลามไปทั่วโลก หนึ่งวันหลังจากองค์การอนามัยโลกพาดพิงผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องหยุดใช้วิกฤตการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มาเป็นประเด็นการเมือง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาวิจารณ์องค์การอนามัยโลกว่าให้ความสำคัญและใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป พร้อมขู่ว่าสหรัฐฯ จะถอนเงินอุดหนุนองค์กรแห่งนี้ซึ่งเป็นสถาบันด่านหน้าในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เชื่อสู่ประชาชนทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 1.5 ล้านคน

จากนั้นกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ตอกย้ำคำพูดของทรัมป์ โดยระบุว่าองค์การอนามัยโลกลงมือล่าช้าในการส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19, พินอบพิเทาจีนมากเกินไป และตั้งคำถามว่าทำไมถึงเพิกเฉยต่อคำเตือนของไต้หวัน

“สหรัฐฯ รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ข้อมูลของไต้หวันถูกยับยั้งจากประชาคมสาธารณสุขระหว่างประเทศ เห็นได้จากถ้อยแถลงขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่บอกว่าไม่มีสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับการติดต่อจากคนสู่คน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริการะบุ “เป็นอีกครั้งที่องค์การอนามัยโลกเลือกการเมืองอยู่เหนือสาธารณสุข การกระทำขององค์การอนามัยโลก ทำให้เสียเวลาและสูญเสียชีวิต”

เฉิน เชนเจ็น รองประธานาธิบดีไต้หวัน ออกมาแฉก่อนหน้านี้ว่า ไต้หวันซึ่งประสบความสำเร็จในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเลวร้ายทั้งที่อยู่ใกล้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ศูนย์กลางของการแพร่ระบาดในเบื้องต้น เคยเตือนองค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เกี่ยวกับการติดต่อจากคนสู่คน แต่ถูกเพิกเฉย

รองประธานาธิบดีรายนี้ระบุว่า คำเตือนของไต้หวันถูกมองข้าม เพราะว่าองค์การอนามัยโลกถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ดังนั้นข้อมูลดังกล่าวจึงไม่ถูกส่งต่อให้กับประเทศอื่นๆ

ในตอนนั้น เฉิน บอกกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สว่าคณะแพทย์ไต้หวันได้รับทราบว่าเหล่าแพย์ในอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดในจีน กำลังล้มป่วย แต่องค์การอนามัยโลกกลับไม่ยอมตรวจสอบค้นหาความจริง

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังตำหนิองค์การอนามัยโลกต่อกรณีให้คำแนะนำด้านการเดินทางผิดพลาดในช่วงต้นของการแพร่ระบาด โดยเฉพาะกรณีที่แนะให้เปิดชายแดนต้อนรับนักเดินทางจากจีนตามเดิม ซึ่งท่าทีดังกล่าวขององค์การอนามัยโลก ก่อผลลัพธ์ทำให้ทั่วโลกดำเนินการล่าช้าในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19

พวกนักวิจารณ์มองว่า การหันมาเล่นงานองค์การอนามัยโลกอย่างฉันพลันของทรัมป์นั้น น่าจะเป็นอุบายทางการเมืองในความพยายามหาแพะรับบาปต่างชาติ ใขณะที่เขากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกรณีที่ไม่ได้เตรียมพร้อมมาหพอสำหรับรับมือกับโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 15,000 คนแล้วในสหรัฐฯ

ตัวของทรัมป์เองในเดือนมกราคม เคยบอกว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ จะอยู่ภายใต้การควบคุมโดยสิ้นเชิงและคาดคะเนด้วยว่าโควิด-19 จะหายไปในเดือนเมษายน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น