เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ถูกย้ายเข้าห้องไอซียู หลังอาการทรุดจากโควิด-19 และรัฐบาลแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างประเทศบริหารงานแทน อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อาการของเขาทรงตัว และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในแดนยูเนียนแจ๊ก ยังอยู่ในภาวะวิกฤต คาดจำนวนผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงสุดในอีกหนึ่งสัปดาห์
รัฐบาลอังกฤษแถลงเมื่อวันจันทร์ (6 เม.ย.) ว่า โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน โดยมีผลทันที
ภารกิจแรกของราบ คือ การเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินประจำวันเรื่องไวรัสโคโรนากับคณะรัฐมนตรี ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการแพทย์ และที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ในวันอังคาร (7)
ราบแถลงว่า รัฐบาลจะบริหารประเทศต่อไปตามปกติ และสำทับว่า จอห์นสันปลอดภัยอยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเซนต์โธมัส ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามอาคารรัฐสภา
เขาเสริมว่า โฟกัสของรัฐบาล คือ สานต่อภารกิจของจอห์นสันในการทำให้มั่นใจว่า อังกฤษจะสามารถเอาชนะโควิด-19 ได้
ข่าวจอห์นสันเข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยวิกฤต (ไอซียู) เป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ชั้นนำทุกฉบับของอังกฤษเมื่อวันอังคาร
ทั้งนี้ จอห์นสัน ซึ่งได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ปรากฏตัวครั้งล่าสุดทางวิดีโอที่โพสต์บนทวิตเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3) ระบุว่า เขามีไข้และยังคงกักกันตัวเอง
ทั้งจอห์นสันและสำนักนายกรัฐมนตรีต่างย้ำในช่วงนั้น ว่า จอห์นสันมีอาการเพียงเล็กน้อย และยังคงติดต่อประสานงานกับรัฐมนตรีและที่ปรึกษาต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นประธานการประชุมผ่านวิดีโอลิงก์
ทว่า คืนวันอาทิตย์ (5) หรือไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง มีพระราชดำรัสเรียกร้องให้อังกฤษและประเทศในเครือจักรภพร่วมมือกันต่อสู้กับไวรัส อาการของจอห์นสันกลับแย่ลงและถูกนำส่งโรงพยาบาล
กระนั้น ในวันจันทร์ผู้นำอังกฤษยังทวีตจากโรงพยาบาลระหว่างช่วงอาหารกลางวัน โดยบอกว่า ตนเองมีกำลังใจดี และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ที่มาคอยดูแล ทว่า อาการของเขากลับทรุดลงอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง จนต้องย้ายเข้าห้องไอซียู และแม้ต้องให้ออกซิเจน แต่สำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จอห์นสันยังรู้สึกตัว และที่ต้องย้ายไปแผนกผู้ป่วยวิกฤต ก็เพื่อระวังไว้ก่อนในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ข่าวบอกด้วยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษนอนอยู่ที่ห้องไอซียูในคืนวันจันทร์ ทว่าไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและอาการทรงตัว
จอห์นสันเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจคนแรกที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส ซึ่งกำลังระบาดรุนแรงทั่วโลก แต่การเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงที่ประเทศอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
ทางด้าน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำทั่วโลก ทั้งสหภาพยุโรป (อียู) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ไปจนถึงองค์การอนามัยโลก (ฮู) ต่างส่งกำลังใจให้จอห์นสันหายป่วยโดยเร็ว
ทรัมป์กล่าวว่า เขาหวังและมั่นใจว่า จอห์นสันจะต้องหายดี และสำทับว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นเพื่อนและผู้นำที่ยิ่งใหญ่
แรกเริ่มนั้นรัฐบาลอังกฤษถูกวิจารณ์อย่างหนักที่ไม่ยอมทำตามประเทศอื่นๆ ในยุโรปในการขอให้ประชาชนงดออกจากบ้านเพื่อลดการระบาดของไวรัส
จอห์นสันเองบอกว่า เมื่อต้นเดือนมีนาคมเขายังจับมือทักทายกับคนมากมาย
ทว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว เขากลับลำประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ และอังกฤษขณะนี้เผชิญสถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 50,000 คน และเสียชีวิตกว่า 5,000 คน เฉพาะวันจันทร์มีผู้เสียชีวิตถึง 439 คน และสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขเตือนว่า ยอดผู้เสียชีวิตจะขึ้นถึงระดับสูงสุดในวันอาทิตย์หน้า (12)
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ และ แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุข ต่างติดเชื้อโควิด-19 แม้ทั้งคู่มีอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม
โรเบิร์ต เจนริก รัฐมนตรีการเคหะ ให้สัมภาษณ์สถานีทีวีบีบีซี ว่า จอห์นสันทำงานหนักมากระหว่างวิกฤตโรคระบาด และรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ตนเองต้องมาป่วยในขณะนี้
จอห์นสันไม่มีโรคประจำตัว ไม่สูบบุหรี่ เล่นเทนนิส และสมัยเป็นนายกเทศมนตรีลอนดอน เคยปั่นจักรยานรอบเมืองหลวง ถึงแม้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว และเมื่อเร็วๆ นี้เขาบอกว่า อยากลดน้ำหนัก
นาดีน ดอร์รีส์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกันแต่รักษาหายแล้ว ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ติดเชื้อหลายคนมีอาการเหนื่อยหอบ ไข้ขึ้น และใช้ช่วงกักตัวเพื่อพักผ่อนให้อาการดีขึ้น แต่จอห์นสันกลับเอาสุขภาพของตัวเองมาเสี่ยงด้วยการทำงานทุกวัน เพื่อเป็นผู้นำในการต่อสู้กับไวรัสมรณะ
นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า แคร์รี ไซมอนด์ส แฟนสาววัย 32 ปี ของจอห์นสันที่กำลังตั้งครรภ์ ได้ย้ายออกจากที่พักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังเจ้าหน้าที่บางคนป่วย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เธอเปิดเผยว่า ตนเองป่วยเช่นเดียวกันแต่อาการดีขึ้นแล้ว