เอเอฟพี - ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะลุ 100,000 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิต 1,544 คน จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องใช้กฎหมายในภาวะสงครามฉบับหนึ่ง บังคับเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เร่งผลิตเครื่องช่วยหายใจ หลังเกิดปัญหาขาดแคลน
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 100,717 คน เพิ่มขึ้นจากวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) ราวๆ 15,000 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ อยู่ที่ 1,544 คน
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอเมริกามีความแตกต่างกันแล้วแต่สถาบัน เนื่องจากยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ โดยข้อมูลของเว็บไซต์ worldometers พบว่าในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 15,162 คน ยอดรวมเป็น 100,597 คน ในนั้นเสียชีวิต 1,550 ราย
ในข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่ากลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯอยู่ในเมืองนิวยอร์กซิตี โดยพบผู้ติดเชื้อมากถึง 25,573 คน และเสียชีวิต 366 ราย
ตัวเลขดังกล่าวซ้ำเติมความกังวลให้มากขึ้นไปอีก หลังจากก่อนหน้านี้ แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก คาดหมายในวันศุกร์ (27 มี.ค.) ว่าอาจต้องใช้เวลาอีกถึง 3 สัปดาห์กว่าที่การแพร่ระบาดของโควิด-19ในรัฐของเขาจะแตะระดับสูงสุด
ยอดผู้ติดเชื้อที่ขยับเหนือ 1 แสนคน มีขึ้น 1 วัน หลังจากสหรัฐฯ แซงหน้าจีน กลายเป็นชาติที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในโลก โดยปัจจุบันมีอิตาลีตามมาเป็นอันดับ 2 ส่วนจีนหล่นไปอยู่อันดับ 3
สถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐฯ กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้วันศุกร์ (27 มี.ค.) บังคับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ทำการผลิตเครื่องช่วยหายใจ ขณะที่เสบียงอุปกรณ์ทางการแพย์อันสำคัญยิ่งนี้เริ่มขาดแคลน ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทรัมป์ประกาศใช้กฎหมาย “การผลิตเพื่อการป้องกัน (Defense Production Act)” ซึ่งมีมาตั้งแต่ช่วงสงครามเกาหลี แต่แทบไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายใดเคยใช้ สั่งการให้จีเอ็มยกระดับความมุ่งมั่นในการผลิตเครื่องช่วยหายใจ โดยใช้โรงงานผลิตรถยนต์แห่งหนึ่งของจีเอ็มเป็นฐานการผลิต หลังจากการเจรจายืดเยื้อครั้งแล้วครั้งเล่า
กฎหมายฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ในช่วงเวลาแห่งสงคราม สำหรับเกณฑ์บริษัทเอกชนให้หันมาผลิตอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่มีความจำเป็นด้านการทหาร “และการประกาศใช้ครั้งนี้จะเปิดทางทำเนียบขาวสามารถบังคับใช้จีเอ็มต้องยอมรับ ปฏิบัติตามและให้ความสำคัญกับสัญญาจัดหาเครื่องช่วยหายใจของรัฐบาลเป็นลำดับแรก” ทรัมป์ระบุในถ้อยแถลง
“การเจรจาของเรากับจีเอ็มในเรื่องศักยภาพของพวกเขาในการจัดหาเครื่องช่วยหายใจออกมาในแง่ดี แต่การต่อสู้กับไวรัสของเขามันเร่งด่วนเสียจนไม่อาจปล่อยให้กระบวนการทำสัญญาแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยดำเนินต่อไปแบบแนวทางปกติ” ทรัมป์กล่าว “จีเอ็มกำลังเสียเวลา มาตรการของวันนี้จะช่วยรับประกันว่าเครื่องช่วยหายใจจะถูกผลิตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องชีวิตชาวอเมริกัน”
