รอยเตอร์/เอพี - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในวันศุกร์ (27 มี.ค.) เห็นชอบแพกเกจ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ มโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจรับมือกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในนั้นรวมถึงการแจกเงินถึงพลเมืองโดยตรงสูงสุดครอบครัวละ 3,000 ดอลลาร์ (ราว 97,000 บาท)
ร่างกฎหมายฉบับนี้ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากมาตั้งแต่เมื่อวันพุธ (25 มี.ค.) ยังจะจัดหาเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็นเร่งด่วนมอบแก่โรงพยาบาลต่างๆ โดยจากนี้มันจะถูกส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคาดหมายว่าเขาจะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายในทันที
“ประเทศของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจและสาธารณสุขครั้งประวัติศาสตร์ สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส มันเป็นโรคระบาดใหญ่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 100 ปี” แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวปิดประชุมหลังใช้เวลาอภิปรายนาน 3 ชั่วโมง
สมาชิกเดโมแครต และรีพับลิกัน ในสภาผู้แทนราษฎรที่เดโมแครตครองเสียงข้างมากลงมติเห็นชอบแพกเกจนี้ด้วยการขานชื่อ ตีตกเสียงคัดค้านจาก โธมัส แมสซี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน ที่ต้องการให้ลงคะแนนอย่างเป็นทางการ
แมสซี ขัดขืนคำร้องขอจากบรรดาแกนนำพรรคครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเขาเขียนบนทวิตเตอร์ให้ความเห็นต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ว่ามันมีการใช้จ่ายเกินขอบเขตหรือการใช้จ่ายแฝงมากเกินไป และมอบอำนาจให้แก่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มากเกินไป อย่างไรก็ตามเสียงคัดค้านของเขาถูกเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิเสธ
บรรดาแกนนำเดโมแครต และรีพับลิกันร้องขอให้สมาชิกกลับสู่วอชิงตันเพื่อตีตกความพยายามคัดค้านของแมสซี ทำให้การอภิปรายพบเห็น ส.ส.หลายที่มาจากแดนไกล ในนั้นรวมถึงแคลิฟอร์เนียปรากฏตัวในห้องประชุมด้วย ในขณะที่การประชุมสภาครั้งนี้อยู่ภายใต้กฎระเบียบพิเศษเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อในหมู่สมาชิก โดยพวกเขาต้องใช้เจลล้างมือและมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่สวมถึงมือป้องกัน
ช่วงที่ผ่านมา สมาชิกส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรที่มีอยู่ทั้งหมด 430 คนในปัจจุบัน ล้วนแต่อยู่ในเขตเลือกตั้งของตนเองสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นทำให้พวกเขาเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากยิ่งขึ้น โดยก่อนหน้ามีสมาชิกสภาคองเกรสอย่างน้อย 3 คนมีผลตรวจออกมาเป็นบวก และอีกกว่า 20 คนต้องกักกันโรคตนเอง
คนชราเป็นวัยที่มีความอ่อนแอต่อโรคโควิด-19 มากที่สุด และค่าเฉลี่ยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อยู่ที่ 58 ปี เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของประชากรโดยรวมของสหรัฐฯ อย่างมาก เนื่องจากค่าเฉลี่ยอายุของประชากรอเมริกาอยู่ที่แค่ 38 ปีเท่านั้น
ในแพกเกจช่วยเหลือ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการบรรเทาทุกข์ทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่สภาคองเกรสเคยอนุมัติมา ในนั้นรวมถึงเงิน 500,000 ล้านดอลลาร์สำหรับช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด และ 290,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับจ่ายเงินโดยตรงถึงครอบครัวชาวอเมิกาหลายล้านครอบครัว สูงสุดครอบครัวละไม่เกิน 3,000 ดอลลาร์
เงินจำนวนนี้จะเป็นการจ่ายครั้งเดียวโดยตรงถึงชาวอเมริกาที่บรรลุนิติภาวะทั้งหมดและพลเมืองสหรัฐฯ ที่มีหมายเลขประกันสังคม โดยแบ่งเป็น 1,200 ดอลลาร์ สำหรับคนโสดที่มีรายได้สูงสุดไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ต่อปี และ 2,400 ดอลลาร์ สำหรับคู่สามีภรรยาที่มีรายได้รวมกันไม่เกิน 150,000 ดอลลาร์ แต่จะได้เพิ่มอีก 500 ดอลลาร์ต่อบุตรหนึ่งคน
นอกจากนี้แล้ว แพกเกจดังกล่าวจะจัดสรรเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์ให้ธุรกิจขนาดเล็กกู้ยืม 250,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับขยายความช่วยเหลือแก่คนว่างงาน และอีกอย่างน้อย 100,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะมอบแก่โรงพยาบาลทั้งหลายและระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
แรงสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรคซึ่งไม่พบเห็นบ่อยนัก ตอกย้ำว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีความจริงจังแค่ไหนในความพยายามรับมือกับโรคระบาดใหญ่ครั้งเลวร้ายของโลก ในขณะที่อเมริกันชนกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วงและระบบสาธารณสุขเสี่ยงรับภาระไม่ไหว
เมื่อวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) สหรัฐฯ แซงหน้าจีนและอิตาลี ขึ้นเป็นชาติที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก หลังยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 85,000 คน และตัวเลขผู้เสียชีวิตเกิน 1,200 คน