ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 มี.ค. 2563
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 1,300 จุดเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) ขานรับวุฒิสภาลงที่มติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนคาดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เช่นกัน โดยความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,552.17 จุด พุ่งขึ้น 1,351.62 จุด หรือ +6.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,630.07 จุด เพิ่มขึ้น 154.51 จุด หรือ +6.24% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,797.54 จุด เพิ่มขึ้น 413.24 จุด หรือ +5.60%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยบวกขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทะยานขึ้นอย่างมาก และนักลงทุนรอการลงมติอนุมัติกองทุนฉุกเฉินของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.55% ปิดที่ 321.38 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,543.58 จุด เพิ่มขึ้น 111.29 จุด หรือ +2.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,000.96 จุด เพิ่มขึ้น 126.70 จุด หรือ +1.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,815.73 จุด เพิ่มขึ้น 127.53 จุด หรือ +2.24%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังนักลงทุนขานรับวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ และนักลงทุนคาดหวังว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอีกเพื่อบรรเทาผลกระทบ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ออกมา อาทิ รายงานตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,815.73 จุด เพิ่มขึ้น 127.53 จุด, +2.24%
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ระงับแผนซื้อน้ำมันกักเก็บในคลังสำรอง เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณ นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ร่วงลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 7.7% ปิดที่ 22.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 1.05 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 26.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐฯ เผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดแรงงานของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้ราคาทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 17.8 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 1,651.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 19.7 เซ็นต์ หรือ 1.32% ปิดที่ 14.676 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 737.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 21.50 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 2,226.10 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากสหรัฐฯ เผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.23 เยน จากระดับ 111.36 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9622 ฟรังก์ จากระดับ 0.9779 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.4029 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4204 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.1040 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0867 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2151 ปอนด์ จากระดับ 1.1870 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6080 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.5960 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 22,552.17 จุด เพิ่มขึ้น 1,351.62 จุด, +6.38%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,630.07 จุด เพิ่มขึ้น 154.51 จุด, +6.24%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,797.54 จุด เพิ่มขึ้น 413.24 จุด, +5.60%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,000.96 จุด เพิ่มขึ้น 126.70 จุด, +1.28%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,815.73 จุด เพิ่มขึ้น 127.53 จุด, +2.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,543.58 จุด เพิ่มขึ้น 111.29 จุด, +2.51%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,946.77 จุด เพิ่มขึ้น 1,410.99 จุด, +4.94%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,487.56 จุด ลดลง 17.91 จุด, -0.71%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,328.09 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด, +0.27%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,338.90 จุด เพิ่มขึ้น 401.27 จุด, +10.19%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,352.34 จุด ลดลง 174.85 จุด, -0.74%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 5,401.58 จุด เพิ่มขึ้น 373.82 จุด, +7.44%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,764.91 จุด ลดลง 16.68 จุด, -0.60%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,686.24 จุด ลดลง 18.52 จุด, -1.09%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,664.60 จุด ลดลง 882.03 จุด, -4.51%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,736.36 จุด เพิ่มขึ้น 91.61 จุด, +0.95%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,113.30 จุด เพิ่มขึ้น 115.20 จุด, +2.30%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,135.20 จุด เพิ่มขึ้น 129.00 จุด, +2.58%