รอยเตอร์ - จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสเปนช่วงข้ามคืนพุ่ง 738 ศพในวันพุธ (25 มี.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมขยับขึ้นเหนือจีน แหล่งอุบัติของโรคระบาดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ประเทศแห่งนี้กำลังดิ้นรนรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจเช่นกัน
ด้วยยอดผู้เสียชีวิต 3,434 ศพ ส่งผลให้เวลานี้สเปน กลายเป็นชาติที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากอิตาลี 6,820 ศพ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดที่ได้เห็นมาดริดต้องเปลี่ยนลานสเก็ตเป็นที่เก็บศพชั่วคราว และมีหลายสิบศพเสียชีวิตคาเตียงในบ้านพักคนชราอย่างเดียวดาย
เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของสเปนซึ่งก็ติดเชื้อไปแล้วหลายพันคน ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อรัฐบาล โดยร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานอย่างเช่นหน้ากากอนามัย, เครื่องขัดและถุงมือ
ปัญหาขาดแคลนเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆนานา ส่งผลให้กองทัพสเปนต้องร้องขอความสนับสนุนด้านพัดลมระบายอากาศ, ชุดป้องกันและชุดตรวจโรคจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จากการเปิดเผยของพลเอกมิเกล วิลลาร์โรยา ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในวันพุธ (25 มี.ค.)
สเปนอยู่ในวันที่ 11 ของคำสั่งล็อกดาวน์ประเทศเป็นเวลา 15 วัน แต่ด้วยสถานการณ์ล่าสุดจึงมีความเป็นไปได้ที่ม้นจะถูกขยายออกไปเป็น 30 วัน โดยโรงเรียน, บาร์, ร้านอาหารและร้านค้าทั้งหมดปิดบริการ ห้ามรวมตัวทางสังคมและประชาชนต้องกักกันตนเองอยู่แต่ในบ้าน
“เราบรรลุเป้าหมายเข้าใกล้การลดการติดต่อทางสังคมโดยสิ้นเชิง” เฟอร์นานโด ซิมง ผู้อำนวยการสำนักงานฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมระบุว่าสเปนใกล้ถึงจุดพีคสุดของการแพร่ระบาดแล้ว
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น 1 ใน 5 หรือ 5,552 คน เป็น 47,610 คนในวันพุธ (25 มี.ค.)
กระทรวงกลาโหมสเปน เผยว่า ทหารที่ออกไปพ่นยาฆ่าเชื้อในบ้านพักคนชราพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักคนชราบางแห่งจำนวน 4 คน ขณะที่สถานที่ประกอบพิธีศพก็ต้องทำงานอย่างหนัก ล่าสุดสถานที่ประกอบพิธีของเทศบาลกรุงมาดริดต้องประกาศว่าจะไม่มีการเก็บศพตั้งแต่เมื่อวันอังคาร (24 มี.ค.) เป็นต้นไปเนื่องจากมีอุปกรณ์ไม่เพียงพอ
ลานสเกตน้ำแข็งแห่งหนึ่งในกรุงมาดริดถูกเปลี่ยนเป็นสถานที่เก็บศพชั่วคราว เนื่องจากสเปนพยายามแก้ปัญหารับมือกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 อย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นระบุว่านี่เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของครอบครัวของผู้เสียชีวิต และสภาพที่เลวร้ายในโรงพยาบาลในกรุงมาดริด
นอกเหนือจากผลกระทบทางสุขภาพแล้ว คำสั่งล็อกดาวน์ประเทศอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เศรษฐกิจของสเปน ด้วยลูกจ้างชั่วคราวหลายหมื่นคนต้องตกงาน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเช่นค้าปลึก, การท่องเที่ยวและการผลิตตกอยู่ในภาวะชะงักงัน
ธนาคารกลางสเปนระบุในวันพุธ (25 มี.ค.) ว่าเศรษฐกิจของประเทศประสบความปั่นป่วนอย่างหนักมาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม และการใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวอย่างรุนแรง
