บลูมเบิร์ก - สเปน พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) 514 คนในวันอังคาร (24 มี.ค.) นับเป็นตัวเลขวันเดียวสูงสุดตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ แม้ดินแดนแห่งนี้พยายามควบคุมการแพร่ระบาดด้วยมาตรการต่างๆ อันเข้มข้น ในนั้นรวมถึงสั่งห้ามประชาชนออกจากที่พักอาศัย
ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขสเปน พบว่าจากตัวเลขในวันอังคาร (24 มี.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 2,182 คน เป็น 2,696 คน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 33,089 คน เป็น 39,673 คน
นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ เตือนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดยังมาไม่ถึงและเรียกร้องประชาชนชาวสเปน “จงเข้มแข็งไว้”
ประเทศแห่งนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของภาวะล็อกดาวน์ (ปิดเมือง) ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 11 เมษายน โดยจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวบ้านอย่างเข้มข้น กระจายกำลังตำรวจลาดตระเวนตามท้องถนนสายต่างๆ และส่งทหารเข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
ในมาดริด แคว้นที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 หนักหน่วงที่สุด รัฐบาลแคว้นและรัฐบาลเมืองได้จัดตั้งโรงพยาบาลชั่วคราวตามโรงแรมต่างๆ และศูนย์ประชุมหลัก เพื่อบรรเทาภาระของระบบสาธารณสุขซึ่งตอนนี้แบกรับภาระเต็มศักยภาพแล้ว
แม้สถานการณ์ในสเปนยังไม่น่ากลัวเหมือนกับในอิตาลี ศูนย์กลางของการแพร่ระบาดในยุโรป แต่เมื่อวันเสาร์ (21 มี.ค.) พวกเขาได้กลายเป็นชาติอันดับ 2 ของยุโรปที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เกิน 1,000 คน
ในความพยายามบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ รัฐบาลสเปนแถลงแพกเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสูงสุด 20% ของจีดีพี โดยมีแผนจัดสรรเงิน 100,000 ล้านยูโรปปล่อยกู้แก่บริษัทต่างๆ เช่นเดียวกับอีก 17,000 ล้านยูโร สำหรับช่วยเหลือโดยตรงเพื่อให้ภาคธุรกิจอยู่รอดระหว่างภาวะล็อกดาวน์