รอยเตอร์ - รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มมาตรการล็อกดาวน์ปิดผับ สโมสร โรงยิม และศาสนสถานต่างๆ ในวันนี้ (23 มี.ค.) หลังพบว่าประชาชนจำนวนมากไม่ใส่ใจคำเตือนให้เว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และยังคงไปเที่ยวเตร่ตามชายหาด บาร์ และร้านอาหาร ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ในแดนจิงโจ้พุ่งกว่า 1,300 ราย
จากที่เคยมีอัตราการแพร่กระจายต่ำในช่วงแรกๆ วันนี้ (23) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 1,314 คนตามฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ โดยเฉพาะรัฐวิกตอเรีย และนิวเซาท์เวลส์ ที่มีผู้ป่วยมากที่สุด
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงต่อรัฐสภาเช้าวันนี้ (23) ว่า “จะไม่มีการไปผับหลังเลิกงาน ไม่มีการไปยิมตอนเช้า และไม่มีการนั่งรับประทานอาหารในคาเฟ่”
ผู้นำออสซี่ยอมรับว่าความท้าทายด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากไวรัสทำให้ปีนี้ “เป็นปีที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของเราทุกคน” พร้อมเตือนชาวออสเตรเลียให้เตรียมตัวเตรียมใจ หากจะต้องมีการปิดเมืองนานถึง 6 เดือน
แม้จะมีการรณรงค์ให้ทุกฝ่ายร่วมกันเว้นระยะห่างทางสังคม ทว่ายังมีชาวออสเตรเลียบางส่วนที่เพิกเฉยคำเตือน และไปจับกลุ่มนั่งสังสรรค์กันริมชายหาดบอนดี (Bondi Beach) รวมถึงร้านอาหารและผับบาร์ต่างๆ ในช่วงไม่กี่วันมานี้
มอร์ริสัน ระบุวานนี้ (22) ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการใหม่เพื่อบังคับใช้ social distancing และหยุดบริการต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น สถานออกกำลังกายในร่ม, ผับ, โรงภาพยนตร์, บาร์ และศาสนสถานต่างๆ ตั้งแต่เที่ยงวันนี้ (23) เป็นต้นไป ยกเว้นเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านขายยา, บริการขนส่งสินค้า และร้านค้าปลีก
ทางการยังได้สั่งปิดหาดที่มักจะมีคนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ส่วนคาเฟ่และร้านอาหารก็จะต้องเปิดขายแบบซื้อกลับบ้านหรือเดลิเวอรีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวรอยเตอร์ระบุว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ต้องหยุดงานหรือถูกเลิกจ้างไปเข้าคิวลงทะเบียนเพื่อรับเงินอุดหนุนประกันสังคมตามสำนักงานของรัฐทั้งที่นครซิดนีย์และเมลเบิร์นในวันนี้ (23)
หลายรัฐในออสเตรเลียตัดสินใจใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นไปอีก เช่น รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเริ่มจำกัดการเข้าออกบริเวณพรมแดนตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์
แดเนียล แอนดรูส์ นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐวิกตอเรีย ประกาศปิดโรงเรียนตั้งแต่วันอังคาร (24) และได้วางแผนให้สถานศึกษาต่างๆ จัดการเรียนการสอนทางไกล ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์แม้ยังไม่มีคำสั่งปิดโรงเรียน ทว่าพ่อแม่ผู้ปกครองก็ได้รับการร้องขอให้ดูแลลูกหลานให้อยู่แต่ในบ้าน
ประเทศเพื่อนบ้านอย่างปาปัวนิวกินีได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสรายแรกของประเทศ ส่วนเกาะกวมซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ก็พบหญิงวัย 68 ปีเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกเมื่อวานนี้ (22)