รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ส่งเฮลิคอปเตอร์นำชุดตรวจหาไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ ไปส่งยังเรือสำราญที่ถูกสั่งกักอยู่นอกชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในอเมริกาเพิ่มเป็น 12 ราย และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อในอีก 4 รัฐใหม่ รวมถึงนครซานฟรานซิสโก
ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดอยู่ที่เทศมณฑลคิง รัฐวอชิงตัน และมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วสหรัฐฯ อย่างน้อย 57 คน ในจำนวนนี้รวมถึงผู้ป่วยเคสแรกของรัฐโคโลราโด, แมริแลนด์, เทนเนสซี, เทกซัส และนครซานฟรานซิสโก
ทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์นำชุดตรวจไวรัสไปส่งยังเรือสำราญ ‘แกรนด์ปรินเซส’ ที่จอดลอยลำอยู่นอกชายฝั่ง ไม่ได้รับอนุญาตเข้าเทียบท่ายังนครซานฟรานซิสโก หลังพบผู้โดยสารและลูกเรืออย่างน้อย 35 คนมีอาการคล้ายไข้หวัด โดยเรือลำนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วย 2 รายที่ยืนยันแล้วว่าติดเชื้อโควิด-19
แคลิฟอร์เนียซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือการแพร่ระบาดพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 6 ราย รวมถึง 2 รายในซานฟรานซิสโกซึ่งคาดว่าเกิดจาก “การแพร่เชื้อภายในชุมชน”
เทศมณฑลคิง รัฐวอชิงตัน ที่ตั้งของเมืองซีแอตเติล จัดเป็นพื้นที่ซึ่งพบการระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดในสหรัฐฯ ล่าสุดมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่อีก 20 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยในเทศมณฑลแห่งนี้เพิ่มเป็น 51 ราย เสียชีวิต 11 ราย
บริษัทด้านเทคโนโลยี เช่น กูเกิล, แอมะซอน, เฟซบุ๊ก และไมโครซอฟท์ ต่างแนะนำให้พนักงานในซีแอตเติลทำงานจากที่บ้านหลัง พบว่ามีพนักงานบางส่วนติดเชื้อไวรัส
เทกซัสยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 3 รายแรก ขณะที่เทนเนสซี และโคโลราโด พบผู้ป่วยรัฐละ 1 คน เท่ากับว่าขณะนี้โควิด-19 ได้แพร่กระจายไปยัง 17 รัฐทั่วอเมริกา
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) แถลงวานนี้ (5 มี.ค.) ว่ายอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขยับเพิ่มเป็น 149 ราย แต่เข้าใจว่าตัวเลขนี้น่าจะยังไม่รวมผู้ป่วย 57 เคสใหม่
ขณะเดียวกัน วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้มีมติ 96 ต่อ 1 เสียงผ่านร่างงบประมาณฉุกเฉิน 8,300 ล้านดอลลาร์เพื่อต่อสู้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เพียง 1 วันหลังจากที่ร่างงบประมาณนี้ผ่านมติเอกฉันท์จากสภาผู้แทนราษฎร โดยคาดว่าในวันนี้ (6) จะมีการส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมาย
วงเงินกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้เพื่อสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19, ชุดตรวจหาไวรัส ตลอดจนแนวทางการรักษาอื่นๆ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือตัวยาที่ผ่านการรับรองว่าสามารถรักษาโรคติดต่อร้ายแรงนี้ได้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ คาดว่าจะสามารถจัดหาชุดตรวจไวรัสที่ผลิตโดยเอกชนได้ราวๆ 1 ล้านชุด เพื่อจัดส่งไปยังห้องปฏิบัติการของรัฐภายในสัปดาห์นี้ และจะสามารถใช้ตรวจประชาชนได้ราว 400,000 คน
ด้านรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้คุมภารกิจต่อต้านไวรัสเรียกร้องให้ชาวอเมริกันที่ยังมีสุขภาพดีหยุดแห่ซื้อหน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนจนส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่การแพทย์และผู้ป่วย
“ถ้าคุณไม่ได้ป่วย ก็ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหน้ากากอนามัย” เพนซ์ กล่าวระหว่างไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากาก 3M ที่รัฐมินนิโซตาวานนี้ (5)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเดินทางไปยังเมืองสแครนตัน รัฐเพนซิลเวเนีย ถูกสื่อตั้งคำถามว่าวิกฤตไวรัสระบาดคราวนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากน้อยเพียงใด ซึ่ง ทรัมป์ ก็ยอมรับว่า “คงมีผลกระทบอย่างแน่นอน แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่ในสหรัฐฯ และใช้จ่ายเงินในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมพอใจ”