ทนายแฉ! ‘ทรัมป์’ เสนออภัยโทษ ‘เจ้าพ่อวิกิลีกส์’ แลกกับการล้างข้อหาให้ ‘รัสเซีย’

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เคยยื่นข้อเสนอ “อภัยโทษ” ให้แก่ จูเลียน แอสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จอมแฮวิกิลีกส์ ขอเพียงแต่ แอสซานจ์ ยอมออกมาพูดว่ารัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกอีเมลของพรรคเดโมแครตในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ทนายเผยต่อศาลกรุงลอนดอนวานนี้ (19 ก.พ.)

แอสซานจ์ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำถูกนำตัวขึ้นศาลผ่านระบบวิดีโอลิงค์ ก่อนที่จะมีการพิจารณาคำร้องขอส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า

เอ็ดเวิร์ด ฟิตซ์เจอรัลด์ ทนายของแอสซานจ์ ให้การต่อศาลแขวงเวสต์มินสเตอร์ โดยระบุว่า ดานา โรห์ราบาเคอร์ (Dana Rohrabacher) อดีต ส.ส.รีพับลิกัน เคยนำข้อเสนออภัยโทษจาก ทรัมป์ ไปยื่นต่อเจ้าพ่อวิกิลีกส์ระหว่างเข้าเยี่ยมเขาที่สถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 2017

เงื่อนไขของการอภัยโทษก็คือ แอสซานจ์ จะต้องออกมาประกาศว่า “ไม่มีชาวรัสเซียเข้าไปเกี่ยวข้อง” กับการแฮกอีเมลทำลายชื่อเสียง ฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งซึ่งลงสมัครประธานาธิบดีแข่งกับ ทรัมป์ ในนามพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2016

สเตฟานี กริสแฮม โฆษกทำเนียบขาว ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลนี้

“ประธานาธิบดีแทบไม่รู้จัก ดานา โรห์ราบาเคอร์ เป็นการส่วนตัว รู้แค่ว่าเขาเป็นอดีตสมาชิกสภาคองเกรสเท่านั้น ท่านไม่เคยคุยกับเขาในประเด็นนี้หรือแม้กระทั่งเรื่องอื่นๆ ก็ตาม นี่คือการสร้างเรื่องโกหกทั้งเพ”

ด้าน โรราห์บาเคอร์ ก็ออกมาแถลงตอบโต้ว่าเขาไม่เคยคุยกับ ทรัมป์ เรื่องแอสซานจ์ และไม่ได้ไปเยี่ยมในฐานะตัวแทนจากผู้นำสหรัฐฯ ด้วย

อดีต ส.ส.รายนี้อ้างว่า การที่เขาพูดว่าจะขอให้ ทรัมป์ อภัยโทษหากเจ้าพ่อวิกิลีกส์ยอมเปิดเผยว่าได้อีเมลมาอย่างไรนั้นเป็นเพียงความคิดของเขาเองล้วนๆ ไม่ใช่ข้อเสนอจากผู้นำสหรัฐฯ

โรห์ราบาเคอร์ ระบุด้วยว่า เขาได้กลับมาแจ้งต่อ จอห์น เคลลี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวในขณะนั้นว่า แอสซานจ์ ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวใดๆ จากทางทำเนียบขาวอีก

ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ได้สรุปยืนยันแล้วว่ารัสเซียพยายามแทรกแซงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 เพื่อช่วยให้ ทรัมป์ ชนะ โดยหนึ่งในกลวิธีที่ใช้ก็คือการแฮกบัญชีอีเมลของพรรคเดโมแครต และนำข้อมูลที่บั่นทอนคะแนนนิยมของ คลินตัน ออกมาแฉ

ทั้งมอสโกและ ทรัมป์ ยืนกรานปฏิเสธข้อครหานี้มาโดยตลอด และผลการสอบสวนของอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ก็ไม่ได้สรุปยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ในทีมหาเสียงของ ทรัมป์ สมคบคิดกับรัสเซีย