xs
xsm
sm
md
lg

จวกญี่ปุ่น'กักกันโรค'ผิดพลาดมหันต์ ผู้เชี่ยวชาญหวั่น“โควิด-19”ระบาดรอบสอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้โดยสารรายหนึ่งซึ่งไม่มีการระบุว่าเป็นใคร ถูกสื่อมวลชนรุมล้อมภายหลังเธอขึ้นมาจากเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” ซึ่งมองเห็นจอดอยู่ทางด้านหลัง เมื่อวันพุธ (19 ก.พ.) ณ ท่าเรือเมืองโยโกฮามา ใกล้ๆ กรุงโตเกียว
เอเอฟพี - ญี่ปุ่นถูกวิจารณ์หนักกรณีการจัดการเรือสำราญ “ไดมอนด์ปรินเซสส์” ที่ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 500 คน ผู้เชี่ยวชาญจวกมาตรการกักกันโรคบนเรือลำดังกล่าวเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง ทำให้มีแนวโน้มสูงมากที่จะเกิดการระบาดรอบสอง ขณะที่ผู้โดยสารหลายร้อยคนได้รับอนุญาตให้ขึ้นฝั่งในวันพุธ (19 ก.พ.) หลังครบ 14 วันซึ่งเป็นระยะฟักตัวของไวรัสโควิด-19

ผู้โดยสารและลูกเรือ 3,711 คนบนเรือสำราญลำดังกล่าวถูกกักตัวนอกชายฝั่งเมืองโยโกฮามาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ หลังพบผู้ที่เคยโดยสารเรือลำนี้คนหนึ่งติดเชื้อ

ขณะถูกกักตัว ผู้โดยสารบนเรือต้องอยู่ภายในห้องพัก โดยได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนดาดฟ้าช่วงสั้นๆ แต่ต้องสวมหน้ากากและถุงมือ และอยู่ให้ห่างจากกัน

ทว่าไม่นานนัก็เริ่มมีข้อสงสัยว่า มาตรการเหล่านั้นเพียงพอหรือไม่ เพราะชั่วเวลาไม่กี่วันกลับพบผู้อยู่บนเรือไดมอนด์ปรินเซสส์ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละหลายสิบคน แล้วจำนวนก็สูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันอังคาร (18) ที่ตัวเลขอยู่ที่ 542 คน

ถึงแม้ผู้โดยสารถูกกักกันในห้องพัก แต่บางครั้งมีคนพบเห็นว่า มีบางคนพูดคุยกันบนดาดฟ้าโดยไม่สวมหน้ากาก นอกจากนั้นลูกเรือที่ไม่ถูกกักตัวยังคงใช้พื้นที่ทำงาน พักผ่อน และห้องน้ำร่วมกัน อีกทั้งสวมแค่หน้ากากและถุงมือธรรมดาขณะให้บริการหรือโต้ตอบกับผู้โดยสาร

รายงานระบุว่า พบเจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 2 คนติดเชื้อขณะขึ้นไปทำงานบนเรือลำนี้

เคนทาโร อิวาตะ ศาสตราจารย์แผนกโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยโกเบ วิจารณ์ว่า มาตรการกักกันบนเรือไดมอนด์ปรินเซสส์เป็นความคิดพลาดครั้งใหญ่เนื่องจากมีการกักกันแบบพื้นฐานเท่านั้น ทำให้มีแนวโน้มสูงมากที่จะเกิดการระบาดรอบสอง

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นพยายามปกป้องมาตรการของรัฐบาล เช่น ชิเกรุ โอมิ อดีตหัวหน้าประจำภูมิภาคขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาล ยืนยันว่า มาตรการกักกันส่งผลดีมากในการลดการติดต่อ โดยเชื่อว่า การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นก่อนเริ่มการกักกัน

แต่ดูเหมือนประเทศต่างๆ ไม่เชื่อคำอธิบายดังกล่าวและเริ่มอพยพพลเมืองของตนจากเรือสำราญลำนี้ แม้ใกล้ครบกำหนดมาตรการกักกันนาน 14 วันของญี่ปุ่นแล้วก็ตาม

อเมริกาอพยพพลเมืองกว่า 300 คนจากเรือลำนี้แล้ว ขณะที่ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา และฮ่องกงกำลังเตรียมการ

รถบัสบรรทุกผู้โดยสารชาวฮ่องกงของเรือสำราญไดมอนด์ ปรินเซส กำลังออกจากท่าเทียบเรือในโยโกฮามา ทางภาคใต้ของกรุงโตเกียว ในวันพุธ(19ก.พ.)
สถานเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำโตเกียวยังเตือนว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ ได้ข้อสรุปว่า แม้มีความพยายามในการกักกัน แต่มีความเสี่ยงสูงที่ผู้โดยสารบนเรือไดมอนด์ปรินเซสส์จะได้รับเชื้อโรคโควิด-19

รัฐบาลต่างๆ ยังเตรียมกักตัวผู้โดยสารเรือลำนี้อีกสองสัปดาห์เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศ ตอกย้ำถึงความไม่เชื่อมั่นในประสิทธิภาพของมาตรการกักกันของญี่ปุ่น

ทางด้านเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้แต่ออกมาแก้ตัวโดยย้ำว่า นี่เป็นสถานการณ์ใหม่ทำให้ยังไม่มีแนวทางในการรับมือ

หลายประเทศเลือกห้ามเรือสำราญเข้าเทียบเท่าเพื่อป้องกันการระบาด และขณะนี้กัมพูชากำลังเร่งติดตามผู้โดยสารเรือเวสเตอร์ดัม หลังพบผู้โดยสารอย่างน้อย 1 คนติดเชื้อ

โอมิสำทับว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการรับมือและผู้ที่รับผิดชอบ รวมถึงกำหนดเวลาที่จะต้องกักตัวก่อนอนุญาตให้ผู้โดยสารขึ้นฝั่ง และทิ้งท้ายว่า ไม่มีประเทศหรือองค์กรใดที่สมบูรณ์แบบ

ไมเคิล ไรอัน หัวหน้าโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของฮู ยอมรับว่า มีการแพร่เชื้อสูงกว่าที่คาดบนเรือไดมอนด์ปรินเซสส์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องง่ายมากในการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับประเด็นสาธารณสุข ณ จุดหนึ่ง

นอกจากนั้น ยังมีความยากลำบากที่จะระบุช่วงเวลาที่ไวรัสเริ่มแพร่เชื้อบนเรือ เนื่องจากความล่าช้าในการเริ่มการตรวจ โดยในตอนแรกนั้นมีผู้โดยสารไม่ถึง 300 คนที่ได้รับการตรวจวินิจฉัย ก่อนที่จะขยายไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ

ญี่ปุ่นยอมรับว่า มีศักยภาพในการตรวจจำกัด แต่กลับรอนานหลายวันกว่าจะขอความช่วยเหลือจากภาคเอกชน และเพิ่งตรวจผู้โดยสารครบทั้งหมดก่อนสิ้นสุดระยะกักกันเพียงวันเดียว

การที่ผู้โดยสารจำนวนมากที่ผลตรวจออกมาเป็นบวกแต่ไม่แสดงอาการ ทำให้ยิ่งยากในการพิสูจน์ว่า คนเหล่านั้นติดเชื้อตั้งแต่เมื่อไร

กระนั้นก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ผู้ที่ผลตรวจออกมาเป็นลบในวันท้ายๆ ของการกักตัวลงจากเรือ ซึ่งคาดว่า เฉพาะวันพุธวันเดียวจะมีจำนวนถึง 500 คน

ทาเคจิ วากิตะ อธิบดีสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของญี่ปุ่น กล่าวว่า หากผลตรวจเป็นลบก็จะยังเป็นลบเสมอ โดยอ้างอิงชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนที่อพยพออกจากจีนซึ่งส่วนใหญ่ผลตรวจออกมาเป็นลบนับจากที่เริ่มกักตัว

การจัดการวิกฤตโคโรนายังส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่ประสบปัญหาอยู่แล้วจากเรื่องอื้อฉาวในการช่วยเหลือพวกพ้อง โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า ประชาชน 52% ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรับมือการระะบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น