xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: ชมคลิปตลาดค้าค้างคาวแดนอิเหนาแล้วจะอึ้ง “นักวิทย์ฯจีน” ชี้ “เชื้อไวรัสโคโรนา” อาจหลุดจากห้องแล็บรัฐบาลปักกิ่ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากวิดีโอคลิป VOA ถ่ายเมื่อวันพุธ(12 ก.พ)
เอเจนซีส์ – VOA รายงานภาพตลาดค้าค้างคาวในแดนอิเหนาที่มีหลากหลายให้เลือกแถมปรุงเสร็จสรรพ หลังในวันเสาร์(15 ก.พ)จาการ์ตาสั่งห้ามค้าค้างคาวและงูผลจากโรคโควิด-19 ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสโคโรนาอาจหลุดออกมาจากห้องแล็บของรัฐบาลปักกิ่งที่ตั้งอยู่ห่างตลาดอาหารทะเลอู่ฮั่นไปไม่ถึง 300 เมตร

VOA สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(16 ก.พ)ถึงบรรยากาศค้าค้างคาว งู และอื่นๆในอินโดนีเซียที่เกิดขึ้นในวันพุธ(12)แสดงให้เห็นถึงค้างคาวจำนวนมากสีดำนอนหงายในสภาพอ้าปากเรียงรายที่เห็นถึงฟันสีขาวในปากได้อย่างชัดเจน

พบว่าค้างคาวเหล่านี้ถูกตัดปีกเรียบร้อยแล้วรอให้ผู้บริโภคแดนอิเหนาเลือกซื้อ โดยพ่อค้าค้างคาวนั้นจะมีเขียงและมีดอยู่ด้านข้างพร้อมกับเครื่องชั่งไว้พร้อมสรรพเมื่อมีลูกค้าเข้ามา พ่อค้าจะทำการสับตัวค้างคาวเป็นชิ้นๆก่อนที่จะใส่ลงในถุงพลาสติกสีสดให้นำกลับไป

และนอกเหนือจากค้างคาวที่ตลาดแห่งนี้ซึ่ง VOA ได้ไปสำรวจมีการค้างูเพื่อเป็นอาหารด้วยเช่นกัน โดยงูจะถูกห้อยโชว์ความสดและมีบางตัวถูกวางอยู่บนแผง การจำหน่ายงูไม่ต่างกับค้างคาวที่จะมีการตัดแบ่งและชั่งน้ำหนักบนเครื่องชั่งโดยที่ไม่ต้องเลาะเอาหนังออก

วิดีโอคลิปมีการนำงูที่ถูกตัดชั่งไปเผาด้วยความร้อนสูงก่อนที่พ่อค้าจะนำงูที่ได้รับการเตรียมแล้วใส่ในถุงพลาสติกสีสด และหลังจากนั้นในคลิปยังมีการแสดงให้เห็นถึงการใช้ค้างคาวสำหรับกาประกอบอาหารรวมไปถึงเนื้องู โดยเครื่องปรุงเท่าที่เห็นจะเน้นรสจัดจ้านมีส่วนประกอบตะไคร้ พริก และหอมแดงรวมไปถึงอื่นๆ

อย่างไรก็ตามอ้างการรายงานจากสื่อสตาร์ของมาเลเซีย จังหวัดสุลาเวสีเหนือ(North Sulawesi) ซึ่งเป็นแหล่งในเรื่องสัตว์แปลกหายากได้ออกสั่งให้หยุดการจำหน่ายค้างคาวและงูเพื่อเป็นอาหารเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินโดนีเซียแถลงวันเสาร์(15)

ซึ่งโทโมฮอน( Tomohon) เป็นที่ขึ้นชื่อถึงตลาดที่ขายสัตว์แปลกเพื่อประกอบอาหาร รวมไปถึง หนู งู ค้างคาว และลิง

“ทางเราได้แจ้งกับบรรดาผู้ค้าให้หยุดการจำหน่ายชั่วคราวสำหรับค้างคาวและงูหรืออะไรก็ตามที่ถูกมองว่ามันยั่วยุมากเกินไป” หัวหน้าสาธารณสุจโทโมฮอน Isye Liuw กล่าว

นอกจากนี้ยังเสริมว่า “ได้เพิ่มการจับตามากขึ้นสำหรับรถบรรทุกที่ขนสัตว์หายากประเภทนี้เข้าสู่โทโมฮอน” โดยเธอให้รายละเอียดว่า เป็นการขนส่งมาจากพื้นที่อื่นๆในสุลาเวสี

หัวหน้าสาธารณสุขเมืองโทโมฮนกล่าวว่าได้ตั้งทีมเพื่อออกประกาศให้ประชาชนทั่วไปรับทราบถึงคำสั่งห้ามการค้าค้างคาวและงู ซึ่งชี้ว่าทางหน่วยงานได้แจ้งให้ประชาชนรับทราบถึงอันตรายจากโรคโควิด-19 และคนเหล่านี้มีความหวาดวิตกมาก

การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นหลังก่อนหน้าในวันพฤหัสบดี(13)กระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซียออกคำสั่งห้ามการนำเข้าวัวควายและสัตว์ปีกจากจีนเข้าประเทศ ซึ่งทางจาการ์ตาได้แบนการนำเข้าสัตว์หายากจากจีนก่อนหน้าแล้ว

ขณะเดียวกันในเวลานี้มีการชี้ว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังระบาดอยู่ในเวลานี้ที่แท้จริงแล้วอาจหลุดออกจากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางปักกิ่ง

โดยสื่อเมโทรของอังกฤษรายงานวันนี้(17)ว่า นักวิจัยชาวจีน 2 คนคือ Botao Xiao และ Lei Xiao ได้ตีพิมพ์รายงานภายใต้ชื่อ ความเป็นไปได้ของต้นกำเนิดโคโรนาไวรัส 2019 (The possible origins of 2019-nCoV coronavirus) ที่อ้างว่า เมื่อค้างคาวได้ทำร้ายนักวิจัยแล้วและเลือดของค้างคาวติดอยู่ที่ผิวของนักวิจัยรายนั้น

ผลงานฉบับนี้มาจากมหาวิทยาลัยเซาท์ไชน่าเทคโนโลยี(South China University of Technology)ที่ปักกิ่งให้การสนับสนุน

ในรายงานนักวิจัยทั้งสองอ้างว่า ศูนย์การควบคุมโรคของจีน (Centre for Disease Control)ประจำเมืองตั้งอยู่ห่างจากตลาดค้าอาหารทะเลอู่ฮั่นซึ่งเป็นต้นตอโรคระบาดแค่ไม่เกิน 300 เมตร ซึ่งเป็นตลาดที่มีสัตว์ต่างๆที่ถูกใช้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์รวมไปถึงค้างคาวจำนวน 605 ตัว

นอกจากนี้ในรายงานได้ชี้ว่า นักวิจัยที่ถูกค้างคาวทำร้ายได้กักกันโรคตัวเองเป็นเวลา 28 วันหลังจากที่ค้างคาวได้ปัสสาวะใส่เขาเช่นกัน

นักวิจัยจีนอ้างว่าลำดับจีโนม (genome sequence)ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ราว 89%-96% นั้นมีความเหมือนกับไวรัสโคโรนาที่ถูกพบครั้งแรกในค้างคาวเกือกม้า(horseshoe bat)

เมโทรรายงานว่า นอกเหนือจากที่แล็บแห่งนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับตลาดอาหารทะเลซึ่งจำหน่ายสัตว์ป่าแล้วยังตั้งอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลยูเนียนที่มีแพทย์กลุ่มแรกติดเชื้อ

ในรายงานของคนทั้งคู่ ได้มีการให้การจากผู้ให้ปากคำเป็นประชาชนเมืองอู่ฮั่นจำนวน 31 คนและผู้มาเยือนอีก 28 คนได้ชี้ว่า “ค้างคาว” ไม่เคยถูกจำหน่ายที่ตลาดและไม่มีการรับประทานค้างคาวในพื้นที่เกิดขึ้น

นักวิจัยจีนชี้ต่อว่า ค้างคาวท้องถิ่นนั้นอาศัยใกล้สุดห่างออกไปถึง 600 ไมล์และมีความเป็นไปได้น้อยมากในการที่พวกมันจะเดินทางมาด้วยระยะที่ไกล

โดยในการตีพิมพ์ของพวกเขาได้ระบุว่า “เชื้อไวรัสโคโรนาน่าจะมีต้นกำเนิดมาจากห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ในอู่ฮั่นนั่นเอง”

และรวมไปถึงศูนย์สุขภาพอู่ฮั่นด้านการควบคุมโรค( Wuhan Health Centre for Disease Control) หรือ WHCDC โดยในรายงานได้ชี้ว่า สถาบันอู่ฮั่นด้านไวรัสวิทยาอาจทำให้ไวรัสหลุดออกไปสู่ภายนอก

รายงานได้บ่งชี้ว่า “ห้องแล็บแห่งนี้รายงานว่าค้างคาวเกือกม้าจีนถือเป็นแหล่งเก็บกักตามธรรมชาติสำหรับโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง( the severe acute respiratory syndrome coronavirus) หรือ SARS-CoV ที่ทำให้เกิดการระบาดโรคซาร์สในปี 2003”

ซึ่งในเวลานั้นซาร์สที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับโรคโควิด-19 ได้สังหารไปกว่า 800 คนเมื่อครั้งเกิดระบาดครั้งแรกทางใต้ของจีนเมื่อ 17 ปีก่อนหน้า




ภาพเอเฟพีจากตลาดโทโมฮอนเมื่อวันที่ 8 ก.พ

ภาพเอเฟพีจากตลาดโทโมฮอนเมื่อวันที่ 8 ก.พ

ภาพเอเฟพีจากตลาดโทโมฮอนเมื่อวันที่ 8 ก.พ


กำลังโหลดความคิดเห็น