เอเจนซีส์ - อเมริกาและญี่ปุ่นเป็นสองประเทศแรกที่นำพลเมืองออกจากอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสปอดอักเสบที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 132 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อพุ่งเป็นเฉียด 6,000 คน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า ไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดถึงตะวันออกกลางแล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในยูเออีเป็นครอบครัวชาวอู่ฮั่น 4 คน
แม้องค์การอนามัยโลก (ฮู) แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ได้ แต่ไม่อาจคลายความกังวลของคนจำนวนมากเนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ล่าสุดในวันพุธ (29) ตัวเลขเฉพาะในจีนอยู่ที่ 5,974 คน หรือเพิ่มขึ้นจากวันอังคาร 1,459 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในมณฑลหูเป่ยกว่า 800 คน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 26 คน เป็น 132 คน ส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลหูเป่ยที่มีเมืองเอกคือนครอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนาที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วจากตลาดลักลอบค้าสัตว์ป่าแห่งหนึ่ง และขณะนี้หลายเมืองในมณฑลนี้ถูกปิดตายครอบคลุมประชาชนราว 60 ล้านคนเพื่อสกัดการแพร่ระบาด
ทาเคโอะ เอโอยามะ 1 ในชาวญี่ปุ่น 206 คนที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับกลับจากอู่ฮั่นและเดินทางถึงโตเกียวในวันพุธ บอกว่า กังวลมากตอนที่ติดอยู่ในเมืองดังกล่าวขณะที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก
นอกจากนั้นยังมีความหวั่นวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสลึกลับนี้ต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่สายการบินหลายแห่งเริ่มลดเที่ยวบินไปแดนมังกร โดยบริติช แอร์เวย์สเป็นรายล่าสุดที่ประกาศระงับเส้นทางบินไปจีน และบริษัททั่วโลกจำกัดการเดินทางไปจีนของพนักงาน
ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ พยายามนำพลเมืองออกจากอู่ฮั่น โดยหวังว่า จะสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสตามไปแพร่เชื้อในประเทศ
เจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งเผยว่า เครื่องบินเช่าเหมาลำเดินทางออกจากอู่ฮั่นแล้วเมื่อวันพุธพร้อมเจ้าหน้าที่สถานกงสุลและพลเมืองอเมริกันรวม 220 คน ขณะที่แหล่งข่าวหลายคนระบุว่า ทำเนียบขาวประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดทุกวัน รวมทั้งตรวจสอบเที่ยวบินไป-กลับจากจีนอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวตัดสินใจว่า จะยังไม่ระงับเที่ยวบินไปจีนเพื่อควบคุมการระบาด
ด้านออสเตรเลียเตรียมนำพลเมืองบางส่วนออกจากอู่ฮั่นและกักตัวไว้ดูอาการบนเกาะคริสต์มาสในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งปกติแล้วเป็นพื้นที่ที่ใช้กักกันผู้ขอลี้ภัย ส่วนสหภาพยุโรปจะนำพลเมืองกลับภายในสัปดาห์นี้ด้วยเครื่องบินสองลำของฝรั่งเศส
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นในจีนขณะนี้สูงกว่าผู้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกราว 800 คนในปี 2002-2003 แล้ว
แม้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ไวรัสโคโรนา 2019 ไม่ร้ายกาจเท่าซาร์ส แต่ยังไม่น่าไว้วางใจเนื่องจากแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และมีลักษณะสำคัญหลายอย่างที่นักวิจัยยังไม่ล่วงรู้ ซึ่งรวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่แท้จริง
เช่นเดียวกับโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ไวรัสอู่ฮั่นสามารถแพร่กระจายผ่านละอองจากการไอและจาม โดยมีระยะฟักตัว 1-14 วัน และอาจแพร่เชื้อได้ก่อนที่อาการจะปรากฏ
ปัจจุบัน นอกจากในจีนแล้วยังพบผู้ติดเชื้อรวมเกือบ 60 คนใน 15 ประเทศ อาทิ อเมริกา ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และไทย โดยสนามบินทั่วโลกต่างใช้มาตรการคัดกรองผู้โดยสารจากจีน
ล่าสุดในวันพุธ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) พบครอบครัวชาวอู่ฮั่น 4 คนติดเชื้อโคโรนา ถือเป็นครั้งแรกที่พบการระบาดในตะวันออกกลาง
ที่เยอรมนี พบพนักงาน 4 คนในบริษัทเดียวกันติดเชื้อ นับเป็นหนึ่งในเคสแรกๆ ที่มีการติดต่อระหว่างคนกับคนนอกจีน โดยก่อนหน้านี้ฮูรายงานว่า อาจมีเคสการติดต่อระหว่างคนกับคนที่เวียดนามและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางข่าวร้ายมากมายยังมีข่าวดีพอให้เบาใจบ้าง เมื่อนักวิจัยของสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ตี้เพื่อศึกษาการติดเชื้อและภูมิต้านทานโรคในเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียสามารถพัฒนาไวรัสโคโรนาในห้องปฏิบัติการสำเร็จเป็นครั้งแรกนอกจีน โดยอาศัยเชื้อจากผู้ป่วย และเตรียมแบ่งปันตัวอย่างกับฮูและประเทศอื่นๆ เพื่อนำไปศึกษาหาวิธีรับมือต่อ
วันอังคาร ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุว่า ไวรัสปอดอักเสบปริศนาเป็น “ปีศาจ” ระหว่างหารือกับเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการฮู ซึ่งแถลงในเวลาต่อมาว่า จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติไปจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อวางแนวทางการรับมือระดับโลก
วันเดียวกันนั้น อเมริกาเรียกร้องให้จีนร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขนานาชาติในการจัดการวิกฤตไวรัส โดยอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ทิ้งท้ายว่า วอชิงตันเสนอความช่วยเหลือไปสามครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากปักกิ่ง
อย่างไรก็ดี หน่วยงานสาธารณสุขหลายแห่งของอเมริกาเผยว่า กำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสอู่ฮั่น แต่สำทับว่า ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการพัฒนา