เอเจนซีส์/ผู้จัดการรายวัน360-อเมริกาและญี่ปุ่นเป็นสองประเทศแรกที่นำพลเมืองออกจากอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสปอดอักเสบที่ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 132 คน ผู้ติดเชื้อเฉียด 6,000 คน ขณะเดียวกัน ไวรัสโคโรนา 2019 ระบาดถึงตะวันออกกลางแล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกในยูเออีเป็นครอบครัวชาวอู่ฮั่น 4 คน ด้าน "บิ๊กตู่" ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรอง-ด่านควบคุมโรคสุวรรณภูมิ เปลี่ยนแผนใช้เครื่องบินพาณิชย์พาคนไทยกลับเร็วๆนี้ แค่รอจีนไฟเขียว ยันเช็กแล้ว 65 คนไทยในอู่ฮั่นไม่มีป่วย "อนุทิน" ซัดพวกปล่อยเฟกนิวส์ ไม่รักชาติ ย้ำไทยจัดการโรคระบาดได้ดี อันดับ1 ของเอเชีย และอันดับ 6 ของโลก "พาณิชย์" ยันหน้ากากพอใช้ 4 เดือน ขู่กักตุน โก่งราคา ใช้กฎหมายฟันทันที คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน
แม้องค์การอนามัยโลก (ฮู) แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ได้ แต่ไม่อาจคลายความกังวลของคนจำนวนมากเนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ล่าสุดในวันพุธ (29) ตัวเลขเฉพาะในจีนอยู่ที่ 5,974 คน หรือเพิ่มขึ้นจากวันอังคาร 1,459 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในมณฑลหูเป่ยกว่า 800 คน
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 26 คน เป็น 132 คน ส่วนใหญ่อยู่ในมณฑลหูเป่ยที่มีเมืองเอกคือนครอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนาที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วจากตลาดลักลอบค้าสัตว์ป่าแห่งหนึ่ง และขณะนี้หลายเมืองในมณฑลนี้ถูกปิดตายครอบคลุมประชาชนราว 60 ล้านคนเพื่อสกัดการแพร่ระบาด
ทาเคโอะ เอโอยามะ 1 ในชาวญี่ปุ่น 206 คนที่รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับกลับจากอู่ฮั่นและเดินทางถึงโตเกียวในวันพุธ บอกว่า กังวลมากตอนที่ติดอยู่ในเมืองดังกล่าวขณะที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก
นอกจากนั้นยังมีความหวั่นวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสลึกลับนี้ต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่สายการบินหลายแห่งเริ่มลดเที่ยวบินไปแดนมังกร โดยบริติช แอร์เวย์สเป็นรายล่าสุดที่ประกาศระงับเส้นทางบินไปจีน และบริษัททั่วโลกจำกัดการเดินทางไปจีนของพนักงาน
ขณะเดียวกัน ประเทศต่างๆ พยายามนำพลเมืองออกจากอู่ฮั่น โดยหวังว่า จะสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสตามไปแพร่เชื้อในประเทศ
เจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งเผยว่า เครื่องบินเช่าเหมาลำเดินทางออกจากอู่ฮั่นแล้วเมื่อวันพุธพร้อมเจ้าหน้าที่สถานกงสุลและพลเมืองอเมริกันรวม 220 คน ขณะที่แหล่งข่าวหลายคนระบุว่า ทำเนียบขาวประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดทุกวัน รวมทั้งตรวจสอบเที่ยวบินไป-กลับจากจีนอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวตัดสินใจว่า จะยังไม่ระงับเที่ยวบินไปจีนเพื่อควบคุมการระบาด
ด้านออสเตรเลียเตรียมนำพลเมืองบางส่วนออกจากอู่ฮั่นและกักตัวไว้ดูอาการบนเกาะคริสต์มาสในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งปกติแล้วเป็นพื้นที่ที่ใช้กักกันผู้ขอลี้ภัย ส่วนสหภาพยุโรปจะนำพลเมืองกลับภายในสัปดาห์นี้ด้วยเครื่องบินสองลำของฝรั่งเศส
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นในจีนขณะนี้สูงกว่าผู้ติดเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกราว 800 คนในปี 2002-2003 แล้ว
แม้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า ไวรัสโคโรนา 2019 ไม่ร้ายกาจเท่าซาร์ส แต่ยังไม่น่าไว้วางใจเนื่องจากแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และมีลักษณะสำคัญหลายอย่างที่นักวิจัยยังไม่ล่วงรู้ ซึ่งรวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่แท้จริง
เช่นเดียวกับโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ไวรัสอู่ฮั่นสามารถแพร่กระจายผ่านละอองจากการไอและจาม โดยมีระยะฟักตัว 1-14 วัน และอาจแพร่เชื้อได้ก่อนที่อาการจะปรากฏ
ปัจจุบัน นอกจากในจีนแล้วยังพบผู้ติดเชื้อรวมเกือบ 60 คนใน 15 ประเทศ อาทิ อเมริกา ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และไทย โดยสนามบินทั่วโลกต่างใช้มาตรการคัดกรองผู้โดยสารจากจีน
ล่าสุดในวันพุธ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) พบครอบครัวชาวอู่ฮั่น 4 คนติดเชื้อโคโรนา ถือเป็นครั้งแรกที่พบการระบาดในตะวันออกกลาง
ที่เยอรมนี พบพนักงาน 4 คนในบริษัทเดียวกันติดเชื้อ นับเป็นหนึ่งในเคสแรกๆ ที่มีการติดต่อระหว่างคนกับคนนอกจีน โดยก่อนหน้านี้ฮูรายงานว่า อาจมีเคสการติดต่อระหว่างคนกับคนที่เวียดนามและญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดี ท่ามกลางข่าวร้ายมากมายยังมีข่าวดีพอให้เบาใจบ้าง เมื่อนักวิจัยของสถาบันปีเตอร์ โดเฮอร์ตี้เพื่อศึกษาการติดเชื้อและภูมิต้านทานโรคในเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียสามารถพัฒนาไวรัสโคโรนาในห้องปฏิบัติการสำเร็จเป็นครั้งแรกนอกจีน โดยอาศัยเชื้อจากผู้ป่วย และเตรียมแบ่งปันตัวอย่างกับฮูและประเทศอื่นๆ เพื่อนำไปศึกษาหาวิธีรับมือต่อ
วันอังคาร ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุว่า ไวรัสปอดอักเสบปริศนาเป็น “ปีศาจ” ระหว่างหารือกับเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการฮู ซึ่งแถลงในเวลาต่อมาว่า จะส่งทีมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติไปจีนอย่างเร่งด่วนเพื่อวางแนวทางการรับมือระดับโลก
วันเดียวกันนั้น อเมริกาเรียกร้องให้จีนร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขนานาชาติในการจัดการวิกฤตไวรัส โดยอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ทิ้งท้ายว่า วอชิงตันเสนอความช่วยเหลือไปสามครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากปักกิ่ง
อย่างไรก็ดี หน่วยงานสาธารณสุขหลายแห่งของอเมริกาเผยว่า กำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสอู่ฮั่น แต่สำทับว่า ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการพัฒนา
"บิ๊กตู่" เร่งพาคนไทยกลับบ้าน
เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (29 ม.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานด่านควบคุมโรค ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รอให้การต้อนรับ
จากนั้น ได้เยี่ยมชมจุดคัดกรองผู้เดินทางแบบจำเพาะเจาะจง ดำเนินการคัดกรองผู้เดินทางที่มาจากพื้นที่ ที่มีการระบาด โดยนพ.โรม บัวทอง นายแพทย์เชี่ยวชาญกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ นายแพทย์ประจำจุดคัดกรองได้อธิบาย และสาธิตการติดตั้งเครื่องตรวจอุณหภูมิ และขั้นตอนการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้กำลังใจ และขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ต่อมา นายกฯได้ร่วมสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเที่ยวบิน cz 3081 China Southern Airline พร้อมร่วมแจกบัตรคำเตือนสุขภาพ และสาธิตการสแกน QR Code เพื่อให้ได้ข้อมูลคำแนะนำด้านสุขภาพ พร้อมแจกหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ
นายกรัฐมนตรี และคณะ เยี่ยมชมจุด Health Controlด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมเยี่ยมชมวิธีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารร่วมกับการใช้ CCTVของสนามบิน โดยจะเป็นการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารทุกคนที่จะผ่านเข้าไปยังจุดตรวจคนเข้าเมือง ชมการสาธิตการตรวจจับผู้โดยสารผ่านเครื่องเทอร์โมสแกนแบบ Universalและจุดติดตั้งเทอร์โมสแกน
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทการบินไทย และบริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ได้ออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งทางด้านอากาศยาน การบริการบนเครื่องบิน รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤต และเป็นผู้รับผิดชอบในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดรวมทั้งประสานงานหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก โดยภายในได้ประสานแต่ละฝ่ายดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนการประสานกับหน่วยงานภายนอก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ติดตามการออกมาตรการต่างๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ
ใช้เครื่องบินพาณิชย์พาคนไทยกลับ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่จะรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นว่า เรามีแผนไว้แล้ว เพียงแต่ต้องรอเวลาที่จะเคลื่อนย้ายได้ รัฐบาลจะดูแลตรงนี้ รอเวลานิดนึงแล้วกัน
เมื่อถามว่า สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าประเทศอื่นได้เข้าไปรับคนของประเทศตัวเองแล้ว ไทยจะดำเนินการได้เมื่อไร นายกฯ กล่าวว่า ก็กำลังดำเนินการอยู่ ทางการจีนกำลังจัดลำดับคิวอยู่ ไม่ใช่ใครจะไป ก็ไปได้ทันที เพราะขณะนี้เขาปิดเมืองอยู่ สนามบินก็ยังลงไม่ได้ ต้องขออนุมัติเป็นเรื่องๆ เป็นประเทศไป ในส่วนของคนไทยมี 65 คน เด็ก เราก็พร้อมที่จะรับกลับ โดยเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่น ก่อน โดยจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการทั้งหมด พร้อมทีมแพทย์ไปตรวจคัดกรองก่อนที่จะเข้ามาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เพราะเครื่องทหารเขาไม่ให้ไป แต่เราเตรียมไว้เผื่อ ถ้ามันร้ายแรง และเวลาเดินทางไปก็ไม่อยากให้แตกตื่น ตนได้คุยกับอุปทูตจีนแล้ว เขาก็ประสานให้เรามาโดยตลอด เป็นการคุยโดยตรง เขาบอกจะตามเรื่องให้ ว่าจากที่สถานทูตไทยทำเรื่องไปแล้ว ทางการจีนจะดำเนินอย่างไร ต่อไป
นายกฯ กล่าวด้วยว่าได้รับรายงานว่า คนไทยในอู่ฮั่น ยังสบายดี ตอนนี้สามารถติดต่อได้ อาหารการกินก็จัดหาให้ ยืนยัน มีคนทำงานอยู่ ไม่ต้องรอนายกฯสั่งการทั้งหมด เรามีแผนอยู่แล้ว เคยรับมือโรคซาร์ส อีโบล่า ไข้หวัดนก มาแล้ว วันนี้สถิติการควบคุมโรคของไทยดีเป็นอันดับ 6 ของโลก
เมื่อถามว่า ได้กำหนดวันที่จะรับกลับแล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า "กำหนดไว้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับทางการจีนจะอนุญาตเมื่อไร แต่ก็เร็วที่สุด เร็วๆ นี้แหละ ใจเย็นๆ คนไทยที่อยู่ทางโน้นเช็กแล้วไม่ได้ป่วยอะไร หากป่วยเขาต้องเข้าโรงพยาบาล ก็ไม่ได้กลับบ้านอีก"
นายกฯ กล่าวว่า วันที่ 31 ม.ค.นี้ จะไปตรวจติดตาม และเยี่ยมผู้ป่วยที่สถาบันบำราศนราดูร
ซัดพวกปล่อยเฟกนิวส์ไม่รักชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึง กรณีมีการปล่อยเฟกนิวส์ในโซเชียลฯ ว่า คนพวกนี้ไม่มีความรักชาติ รักบ้านเมืองเลย คนที่มีความทุกข์ เดือดร้อน เจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่ทำงานอยู่ เดือดร้อนกันแสนสาหัส แล้วมาทำความกดดัน ยังมากลั่นแกล้งกันแบบนี้อีก อย่างที่บอกว่า ขอให้รับฟังการแถลงจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น
"ตอนนี้ผมก็บังคับท่านอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้แถลงข่าวให้มากที่สุด ไม่ใช่บ่ายสองมาแถลงทีนึง หรือเมื่อมีเหตุการณ์ควรจะรายงาน ก็ให้รีบแถลง หรือถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ก็ให้แถลงสรุปทุกวัน หรือแนะแนว เช่น กินร้อน ช้อนกลาง ใส่หน้ากาก ใส่เจลล้างมือบ่อยๆ ก็จะลดความเสี่ยงได้มาก และต้องติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ซึ่งทุกรายที่คอนเฟิร์มว่ามีเชื้อโรคอู่ฮั่น ก็ได้รับการรักษาหายเกือบทุกราย อาการดีขึ้นทุกคน กลับบ้านไปแล้วก็หลายราย ทีต่างประเทศหายคนแรก ก็โอ้โห แล้วบอกไทยไปทำอะไรอยู่ เมืองไทยรักษาหายไป 8 คนแล้วครับ ไม่ใช่คนเดียว ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานที่นายกฯบอก ว่ามาตรฐานเราไม่แพ้ใคร และความมั่นใจจะเกิดขึ้น ซึ่งผมได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลสถานการณ์นี้ ผมก็ต้องมั่นใจกับทีมงานของผม" นายอนุทิน กล่าว
ไทยจัดการโรคระบาดอันดับ6ของโลก
วันเดียวกันนี้ นายอนุทิน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความความมั่นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ สธ. พร้อมแนบภาพซึ่งยืนยันว่า ประเทศไทย มีความพร้อมในการจัดการโรคระบาด อยู่ในอันดับ 6 ของโลก และเป็น อันดับ 1 ในเอเชีย ซึ่งเป็นภาพจาก Straits times ข้อมูลจาก the economist intelligence unit นอกจากนั้น นายอนุทิน ยังขอความร่วมมือจากประชาชนและสื่อมวลชนให้ระมัดระวังเรื่องการสื่อสาร
นายอนุทิน ระบุว่า เราไม่เคยประมาท เราเป็นชาติแรกที่เริ่มตรวจสอบ และประกาศความจริงให้โลกรับรู้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสนิวโคโรนา นอกประเทศจีน จนนำมาสู่การตื่นตัวขององค์การอนามัยของโลก และทำให้ทุกๆ ชาติตื่นตัว เพราะมาตรฐานของประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก เราดูแลผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อทุกคนที่พบด้วยมาตรฐานสูงสุดจนกระทั่งหายเป็นปกติ แล้วส่งกลับประเทศจีน
กระทรวงสาธารณสุข ได้รับคำสั่งจากนายกฯ ให้ติดตาม ป้องกัน และควบคุมการระบาด มาตั้งแต่ 3 สัปดาห์ที่แล้ว และเราทำงานกันเต็มที่ 24 ชม. ทุกวัน จึงขอให้ผู้ไม่หวังดี และสื่อมวลชนบางท่าน ที่กำลังสนุกกับการสร้างข่าว สร้างภาพ เพื่อเรียกเรตติ้งให้ตัวเอง และดูถูกว่ากระทรวงสาธารณสุข ขาดความรู้ ได้โปรดหยุดการเสนอข่าว สร้างข่าว ที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนก และความไม่เชื่อมั่นต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานด้วยความทุ่มเท ไม่ควรใช้จินตนาการ ความเห็น ความเกลียดชัง ทัศนคติทางการเมือง มาโจมตีทำลายกันในกรณีนี้
ทอ.จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ร่วมคัดกรอง
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. ได้สั่งการให้กรมแพทย์ทหารอากาศ จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ ปฏิบัติงานร่วมกับสธ. และกรมแพทย์เหล่าทัพ ในการตรวจคัดกรอง และตรวจสอบกลุ่มเสี่ยง นักท่องเที่ยวที่เดินทาง และใช้บริการผ่านเข้า-ออก บริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อสนับสนุนตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ส่วนการเตรียมการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ณ เมืองต่างๆ จากประเทศจีนนั้น ขณะนี้กระทรวงกลาโหม มีความพร้อมที่จะปฏิบัติได้ทันทีเมื่อได้รับการอนุญาตจากจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานอย่างใกล้ชิด ของกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพอากาศ โดยกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ ได้เตรียมความพร้อมของชุดแพทย์ พยาบาล ชุดอุปกรณ์ป้องกัน และเวชภัณฑ์ยา เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติในการอพยพคนไทย ในจีน กลับประเทศไทย และพร้อมที่จะออกปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อได้รับคำสั่ง
พาณิชย์” ยันหน้ากากพอใช้ 4 เดือน
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ประกอบการหน้ากากอนามัยรวม 9 บริษัท หลังจากมีความต้องการหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นจากปัญหาไวรัสโคโรนาและปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า ผู้ประกอบการได้ยืนยันว่าสินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันสต๊อกสินค้ามีประมาณ 100 ล้านชิ้น สามารถรองรับความต้องการได้ถึง 4 เดือนนับจากนี้ และยังได้เร่งเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ส่วนผู้นำเข้า ก็เร่งให้มีการเร่งนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่อาจจะทำได้ไม่เร็วนัก เพราะประเทศที่ไทยนำเข้าอย่างจีน ก็มีความต้องการใช้ในประเทศ ซึ่งจะหาทางนำเข้าจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น ทำให้มั่นใจว่าหน้ากากอนามัยทุกชนิด จะไม่มีปัญหาขาดแคลน
พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและแหล่งท่องเที่ยวแล้ว หากพบมีการกักตุนสินค้า หรือค้ากำไรเกินควร จะดำเนินการตามกฎหมายทันที มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยผู้ที่พบเห็นการโก่งราคา หรือกักตุนสินค้า สามารถแจ้งมาได้ที่ 1569
แบงก์ออกมาตรการช่วยกลุ่มท่องเที่ยว
นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ออกมาตรการเร่งด่วนให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ในทันที เพื่อช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจมีความพร้อมสามารถที่จะเผชิญและรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มศักยภาพ
โดยมาตรการเบื้องต้นธนาคารฯ จะช่วยผ่อนคลายผลกระทบระยะสั้นผ่านมาตรการพักชำระเงินต้น (Grace Period) นานสูงสุด 6 เดือน และจะติดตามประเมินผลกระทบในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีความยืดเยื้อธนาคารฯ พร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตรการเพิ่มเติมต่อไป
ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรมของธนาคารฯ ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ สามารถติดต่อขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ 0 2722 2222ลูกค้าสามารถติดต่อขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระให้กับลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และคู่ค้าของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ โดยมีมาตรการช่วยเหลือ คือ การพักชำระเงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน และสามารถขอวงเงินเพิ่มเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันกับ บสย. 2 ปี
ทั้งนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ถ้าลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ที่สาขาของธนาคาร หรือ K-BIZ Contact Center 02-8888822 ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 โดยปัจจุบันธนาคารมีจำนวนลูกค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวได้แก่ โรงแรม, ร้านอาหาร, ขนส่ง, แฟชันและเครื่องประดับ ในจังหวัดกรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี, เชียงใหม่ จำนวน 3,964 ราย มีวงเงินสินเชื่อรวม 35,617 ล้านบาท คิดเป็น 1.6%ของสินเชื่อรวม