เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยืนยันในวันจันทร์ (27) ว่า อังกฤษสามารถมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กับรักษาความมั่นคงแห่งชาติได้ ในขณะที่เขาเตรียมยอมรับบทบาทของยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมจีน หัวเว่ย ในการพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะคัดค้านอย่างหนัก
จอห์นสันออกมาพูดหลังจาก ไมค์ พอเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตว่า “อังกฤษมีการตัดสินใจที่สำคัญเกี่ยวกับ 5G ”
สหรัฐฯ ห้ามไม่ให้หัวเว่ยวางเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G เนื่องจากความกังวลว่า บริษัทนี้อาจอยู่ภายใต้การควบคุมของปักกิ่ง ข้อกล่าวหาที่ถูกปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ขณะที่วอชิตันกดดันจอห์นสันอย่างหนักให้กีดกันหัวเว่ยอย่างเต็มกำลัง ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานว่า “ในวันอังคาร (28) อังกฤษคาดว่าจะอนุมัติให้หัวเว่ยมีบทบาทอย่างจำกัด”
มันออกมาหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่อาวุโสของอังกฤษคนหนึ่งบอกใบ้ถึงการเปิดไฟเขียวให้กับหัวเว่ย
จอห์นสัน บอกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (28) ว่า “ไม่มีเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ควรมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอังกฤษ ทำไมถึงไม่ควรเปิดให้ผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ในอังกฤษสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารอันยอดเยี่ยม แต่ก็ยังสามารถปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเราและปกป้องความเป็นหุ้นส่วนสำคัญของเรากับมหาอำนาจความมั่นคงอื่นๆ ทั่วโลก”
ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสหรัฐฯ รัฐมนตรีอังกฤษหลายคนกำลังหาทางกำหนดเพดานในส่วนแบ่งทางการตลาดของหัวเว่ยในโครงการนี้
ในขณะเดียวกันก็มีการคาดการณ์อย่างแพร่หลายว่า อังกฤษจะอนุญาตให้หัวเว่ยเข้าถึงส่วนประกอบไม่สำคัญของเครือข่าย 5G เช่น เสาอากาศและสถานีฐานที่ติดกับเสาส่งสัญญาณและยอดตึก วอชิงตันขู่ว่าจะจำกัดการแบ่งปันข่าวกรองกับลอนดอน หากอังกฤษยังเดินหน้าต่อ
ยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า ความเสียหายในความสัมพันธ์ระหว่างสองพันธมิตรจากประเด็นหัวเว่ยอาจส่งผลกระทบถึงโอกาสของอังกฤษในการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ภายหลังเบร็กซิต
อังกฤษ ซึ่งจะแยกตัวจากสหภาพยุโรปในวันศุกร์ (31) บางครั้งก็แสดงออกว่าไม่ได้สนใจความกังวลด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่อังกฤษคนหนึ่งชี้ว่า ต่างกับสหรัฐฯ อังกฤษใช้เทคโนโลยีหัวเว่ยในระบบโทรคมนาคมมานาน 15 ปีแล้ว
หน่วยงานความมั่นคงของอังกฤษเชื่อว่า พวกเขาจัดการความเสี่ยงได้จนถึงตอนนี้และจะสามารถทำเช่นนั้นกับเครือข่าย 5G ได้เช่นกัน
เทคโนโลยี 5G ทำให้สามารถโอนถ่ายข้อมูลได้เกือบฉับพลันและถูกมองว่ามีความสำคัญต่อเทคโนโลยีต่างๆ เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและหุ่นยนต์โรงงานสั่งการระยะไกล