รอยเตอร์ - สหราชอาณาจักรขยับใกล้การถอนตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคม อีกก้าว เมื่อร่างกฎหมายที่จำเป็นสำหรับให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงที่ทำไว้กับบรัสเซลส์ ผ่านความเห็นชอบขั้นสุดท้ายในรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันพุธ(22ม.ค.) หลังวูมิสภา(สภาขุนนาง) ยอมละทิ้งความพยายามขอให้แก้ไขร่างกฎหมายประวัติศาสตร์ดังกล่าว
จากนี้ไปร่างกฎหมายดังกล่าวจะกลายเป็นกฎหมายเมื่อผ่านการลงพระปรมาภิไธยโดยสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันพฤหัสบดี(23ม.ค.)
เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม สภาสามัญชนอังกฤษลงมติ 330 ต่อ 231 เห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยข้อตกลงการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Withdrawal Agreement Bill) ซึ่งรองรับการปฏิบัติตามข้อตกลงเบร็กซิตที่เห็นชอบกับอียูเมื่อปีที่แล้ว
ในวันพุธ(22ม.ค.) สมาชิกสภาล่างหรือสภาสามัญชนคว่ำร่างแก้ไขของวุฒิสภา(สภาขุนนาง) ในนั้นรวมถึงมาตรการหนึ่งซึ่งประกันว่าพวกผู้ลี้ภัยเด็กจะได้รับการคุ้มครองหลังเบ็กซิต แล้วตีกลับไปยังวุฒิสภา และท้ายที่สุดแล้วทางวุฒิสภาก็ยอมอ่อนข้อ ลงมติให้การรับรอง
นายกรัฐมนตรีบอนิส จอห์นสัน ปฏิเสธยอมรับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆในร่างกฎหมายว่าด้วยข้อตกลงการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งจะบังคับให้สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปพร้อมด้วยข้อตกลงในวันที่ 31 มกราคม
ทั้งนี้สภาขุนนางมีสิทธิ์หาทางคืนสถานะของการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น เปิดทางให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ก้าวผ่านอุปสรรคสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในช่วงไม่กี่ปีที่่ผ่านมา ตลาดการเงินสับสนอลหม่านจากดราม่าเบร็กซิตที่พลิกผันกลับไปกลับมา ท่ามกลางการเจรจาที่เผ็ดร้อนกับบรัสเซลส์, การโหวตตีตกในรัฐสภาและความปราชัยย่อยยับของหลายรัฐบาล
อย่างไรก็ตามหลังจากจอห์นสัน ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นพรรคของเขาก็ครองเสียงข้างมากจากคำสัญญาคลอดเบร็กซิตในช่วงสิ้นเดือนมกราคม ยุติความไม่แน่นอนว่าอังกฤษจะออกจากอียูเมื่อไหร่และอย่างไร
ประเด็นสำคัญของเบร็กซิตตอนนี้แปรเปลี่ยนเข้าสู่การเจรจาที่กำลังมาถึงระหว่างอังกฤษกับอียู สำหรับการเตรียมการต่างๆในระยะยาว หลังพ้นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม โดยระหว่างนี้อังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ต่างๆของอียูไปก่อน