xs
xsm
sm
md
lg

‘จอร์จ โซรอส’ จวก ‘ทรัมป์’ เป็นพวกนักต้มตุ๋น-หลงตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเจ้าของฉายา ‘พ่อมดการเงิน’ วิจารณ์ทั้งสหรัฐฯ และจีนว่ากำลังตกอยู่ภายใต้อำนาจของ “ผู้ปกครองเผด็จการ” พร้อมเตือนถึงภัยคุกคามของลัทธิประชานิยมและปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

โซรอส วัย 89 ปี วิจารณ์ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ว่าเป็น “นักต้มตุ๋น (conman)” และเป็นพวก “หลงตัวเองขนาดหนัก (ultimate narcissist) ที่ต้องการให้โลกหมุนรอบตัวเขา” ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ใช้เทคโนโลยีควบคุมชีวิตพลเมืองจีนอย่างเบ็ดเสร็จ

“โลกจะน่าอยู่กว่านี้ หากสองคนนี้หมดอำนาจลง” โซรอส กล่าว

ระหว่างการปาฐกถาประจำปีในเวทีประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส เศรษฐีชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการีได้เอ่ยเตือนถึงอันตรายของแนวคิดประชานิยมและภาวะโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมประกาศทุ่มเงินลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยโลกเพื่อต่อสู้ปัญหาความไม่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน (intolerance)

โซรอส ซึ่งเป็นผู้บริจาคอุดหนุนพรรคเดโมแครตรายใหญ่ ชี้ว่ารัฐบาลปักกิ่งและวอชิงตันกำลังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อสังคมอันเสรี

“ผู้นำทั้งสองพยายามสยายอำนาจของรัฐบาลจนเกินขอบเขต” โซรอส กล่าว “ทรัมป์ ไม่แคร์ที่จะต้องเสียสละผลประโยชน์ของชาติเพื่อแลกมาซึ่งผลประโยชน์ของตัวเอง และเขาพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชนะเลือกตั้งอีกสมัย ส่วน สี จิ้นผิง ก็กระเหี้ยนกระหือรือที่จะแสวงหาประโยชน์จากจุดอ่อนของทรัมป์ และใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ควบคุมประชาชนอย่างเบ็ดเสร็จ”

เขายังแสดงความเสียใจที่ชาติมหาอำนาจทั้ง 3 ของโลกคือสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย “ล้วนตกอยู่ในมือของผู้ที่กำลังจะเป็นหรือเป็นเผด็จการแล้ว และคงจะมีผู้นำเผด็จการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ"

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน
มหาเศรษฐีนักลงทุนผู้ได้รับยกย่องว่าสามารถคาดการณ์ทิศทางตลาดได้อย่างแม่นยำ ชี้ว่าความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้อาจเร็วเกินไปสำหรับ ทรัมป์ ซึ่งจะต้องลงสู้ศึกเลือกตั้งในช่วงปลายปี

“ถ้าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใกล้กับวันเลือกตั้ง เขาก็คงมั่นใจได้ว่าชนะแน่ๆ แต่นี่อีกตั้ง 10 เดือนกว่าจะเลือกตั้ง และในช่วงที่สถานการณ์ผันผวน มันก็ไม่ต่างอะไรกับชั่วชีวิต”

โซรอส ยังวิจารณ์ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ว่ากำลังละเมิดธรรมเนียมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตนเอง และเศรษฐกิจจีนเริ่มขาดความยืนหยุ่น (flexibility) ที่เคยมีมา

เขาย้ำว่า แม้ สี จะกลายเป็นผู้นำเผด็จการที่มีอำนาจเข้มแข็งแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ว่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากโครงสร้างประชากรที่บิดเบี้ยวจากนโยบาย ‘ลูกคนเดียว’ ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจแดนมังกร

โซรอส ยังกล่าวถึงลัทธิชาตินิยมที่กำลังเบ่งบานทั่วโลก และเตือนว่าประเทศที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ “อินเดีย” โดยกล่าวหานายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ว่ากำลังเปลี่ยนแดนภารตะที่มีความเป็นหพุวัฒนธรรมให้กลายเป็น “รัฐฮินดูชาตินิยม”
กำลังโหลดความคิดเห็น