รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – เครื่องบินบรรทุกทางอากาศ C-130 เฮอร์คิวลิสของบริษัทเคาล์ซัน เอเวียชัน (Coulson Aviation)ของแคนาดา เกิดตกลงในภูมิภาคอัลไพน์ระหว่างดับไฟป่าออสเตรเลียบ่ายวันพฤหัสบดี(23 ม.ค) มีผู้เสียชีวิต 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าสหรัฐฯ ยังไม่ทราบสาเหตุการตก
รอยเตอร์รายงานวันนี้(23 ม.ค)ว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 รายเป็นชาวอเมริกัน เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียกล่าว ในเวลานี้ยังไม่ทราบสาเหตุการตกของเครื่องบิน C-130 เฮอริคิวลิส ซึ่งเป็นเครื่องบินบรรทุกทางอากาศที่มีสารดับเพลิง (fire retardant) อยู่เต็มลำ
โดยเดอะการ์เดียนชี้ว่า ชาวอเมริกันเหล่านี้เป็นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าสหรัฐฯ
“เป็นที่น่าเสียใจ ที่พบว่าไม่มีผู้รอดชีวิตเป็นผลมาจากการตกเกิดขึ้นในภูมิภาคสโนวีย์ โมนาโร(Snowy Monaro) ” เชน ฟิตส์ซิมมอนส์(Shane Fitzsimmons) ผู้บัญชาการสำนักงานดับไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ RFS (NSW Rural Fire Service) กล่าว
โดยผู้บัญชาการสำนักงานไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ อ้างอิงการรายงานจากสื่ออังกฤษระบุว่า ก่อนเวลา 13.30 น. ทางออสเตรเลียได้สูญเสียการติดต่อหนึ่งในเครื่องบินบรรทุกของออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้ภายในรัฐมานานหลายปีภายใต้ข้อตกลง
“เครื่องบินบรรทุกเกิดตกกระแทกอย่างแรงบนพื้นด้านล่าง และจากรายงานเบื้องต้นพบว่าเกิดลูกไฟขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องหลังเครื่องตก และในชั้นนี้ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้ถึงสาเหตุการตก” ฟิตส์ซิมมอนส์แถลง
เดลีเมลรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบไปที่เกิดเหตุและพบแต่ซากเครื่องบินที่ตกและไหม้ไฟ ไม่มีการพบผู้รอดชีวิต ซึ่งเดลีเมลชี้ว่า ยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 โดยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าสหรัฐฯได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นหลังเดินทางมาถึงเมืองซิดนีย์เพื่อช่วยเหลือภารกิจเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า
ทั้งนี้เครื่องบินลำนี้มีเจ้าของและถูกควบคุมโดยบริษัทดับไฟป่าทางอากาศแคนาดา "เคาล์ซัน เอเวียชัน" (Coulson Aviation) ที่มีเครื่องบินเฮอร์คิวลิสลำที่ 2 ช่วยในภารกิจดับไฟป่าออสเตรเลีย เดอะการ์เดียนชี้ว่า เป็นการทำสัญญาของสำนักงานดับไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์
และการตกทำให้ทางบริษัทได้สั่งห้ามบินฝูงเครื่องบินบรรทุกทั้งหมด เพื่อตรวจดูว่าไม่มีปัญหาด้านเทคนิกเช่นปัญหาระบบพลังงานขัดข้อง ผู้บัญชาการสำนักงานดับไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์แถลง
เคาล์สันกล่าวว่า เครื่องลำที่ตกอยู่ในระหว่างภารกิจการดับเพลิง และบนเครื่องบรรทุกสารดับเพลิงจนเต็มลำ และทางบริษัทจะส่งทีมไปยังที่จุดตกเพื่อให้การช่วยเหลือในปฎิบัติการกู้ภัย
“อุบัติเหตุรายงานว่าเป็นวงกว้าง และพวกเรามีความเสียใจที่ต้องแจ้งว่ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้น 3 ราย” เคาล์สัน เอเวียชัน กล่าวผ่านแถลงการณ์สั้นทางอีเมล
การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุล่าสุดทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตไฟป่าออสเตรเลียมาอยู่ที่ 32 ราย
ทั้งนี้อ้างอิงจาก Flightradar24 เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินพบว่า เครื่องเฮอร์คิวลิสออกจากฐานทัพอากาศริชมอนด์ (Richmond air force base) ในซิดนีย์เวลา 12.15 น. และได้หายไปจากหน้าจอเรดาร์หลังเวลา 14.00 น.
โดยเว็บไซต์ได้แสดงเส้นทางการบินเครื่องบินบรรทุกลำเกิดเหตุที่ใช้ในปฎิบัติการขนน้ำเพื่อดับไฟป่าที่จู่ๆได้หยุดลงที่พีก วิว (Peak View) ทางใต้ของกรุงแคนเบอร์รา
ซึ่งพีก วิงถือเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับไฟป่าลูกที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ อุทยานแห่งชาติวาดบิลลิกา (Wadbilliga National Park)
C-130 เฮอร์คิวลิสมีสมรรถนะในการขนน้ำร่วม 15,000 ลิตรหรือสารดับเพลิงที่จะทำการปล่อยลงเหนือไฟป่า เป็นกระบวนการเพื่อจะควบคุมไฟในพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นยากที่จะเข้าถึง
เบลินดา กรีน (Belinda Greene) เจ้าหน้าที่แผนกต้อนรับโรงแรมเบรดโบ อินน์ (Bredbo Inn Hotel)ใกล้กับจุดตกได้ให้ข้อมูลว่า เธอได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจแข่งกันมาภายในช่วงต้นบ่ายของวัน “พวกเราเห็นกลุ่มควันเยอะมากที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนหน้า”
ทั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดสนามบินในกรุงแคนเบอร์รา จากการที่เกิดไฟป่าขนาดใหญ่ที่เกิดมาจากการรวมตัวของไฟป่าระดับฉุกเฉิน 2 ลูก
ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่และบรรดาธุรกิจร้านค้าใกล้ไฟป่าลูกนี้ได้รับการบอกว่า สายเกินไปที่จะอพยพออกไป